:::

กระทรวงสาธารณสุขไทยห่วงผู้สูงอายุติดโควิด-19 จากบุตรหลาน แนะ 3 หลักการ “ลด-เลี่ยง-ดูแล” หลังพบผู้สูงอายุป่วยโควิด-19 เสียชีวิต ร้อยละ 39

กระทรวงสาธารณสุขไทยห่วงผู้สูงอายุติดโควิด-19 จากบุตรหลาน แนะ 3 หลักการ “ลด-เลี่ยง-ดูแล” หลังพบผู้สูงอายุป่วยโควิด-19 เสียชีวิต ร้อยละ 39


การดูแลผู้สูงอายุเพื่อลดความเสี่ยงการติดเชื้อโควิด-19 (ภาพจาก กระทรวงสาธารณสุขไทย)

เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในไทยยังคงน่าเป็นห่วง  เมื่อวานนี้ (6 เม.ย.) ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย ให้สัมภาษณ์ว่า ผู้สูงอายุมีโอกาสติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ง่ายกว่ากลุ่มอื่น ซึ่งส่วนมากจะติดเชื้อมาจากบุตรหลานวัยทำงานที่มีอัตราการป่วยสูง และที่สำคัญผู้สูงอายุที่ติดเชื้อมีอัตราการเสียชีวิตสูงถึงร้อยละ 39 (จากจำนวนผู้เสียชีวิตโควิด-19 ในประเทศไทย 26 ราย) ดังนั้น ในช่วงเดือนเม.ย.ซึ่งตรงกับประเพณีสงกรานต์ บุตรหลานวัยทำงานไม่ควรกลับไปเยี่ยมพ่อ แม่ หรือผู้สูงอายุที่ภูมิลำเนา เพราะอาจนำเชื้อโรคไปสู่ท่านได้แนะเปลี่ยนวิธีด้วยการสื่อสารช่องทางต่างๆ เช่น โทรศัพท์ ไลน์ หรือเฟซบุค สำหรับผู้ที่ดูแลผู้สูงอายุอยู่ที่บ้านให้ปฎิบัติตามหลักการ 3 ล. “ลด-เลี่ยง-ดูแล” สำหรับลดคือลดความเสี่ยงจากการสัมผัส ล้างมือด้วยน้ำและสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์ และลดการแพร่เชื้อ อยู่บ้านให้สวมหน้ากากผ้า ส่วนเลี่ยงคือเลี่ยงการเข้าไปในพื้นที่ที่มีการระบาดของโรค คนหนาแน่น เลี่ยงการใช้มือสัมผัสหน้า และดูแลคือดูแลสุขภาพตนเอง ใช้ช้อนกลางส่วนตัว ล้างมือบ่อยๆ ออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ และรับผิดชอบต่อสังคม หากกลับจากพื้นที่เสี่ยง ต้องแยกสังเกตอาการไม่น้อยกว่า 14 วัน
ทั้งนี้เพื่อลดโอกาสการรับเชื้อ จึงขอแนะนำผู้สูงอายุงดออกนอกบ้าน หมั่นล้างมือด้วยน้ำและสบู่ ก่อนรับประทานอาหารและหลังใช้ห้องส้วม ไม่ใช้มือสัมผัสใบหน้า ตา ปาก จมูก แยกสำรับอาหารและแยกของใช้ส่วนตัวที่จำเป็น อยู่ห่างจากบุตรหลานและผู้อื่นอย่างน้อย 1-2 เมตร และเปลี่ยนวิธีการติดต่อสื่อสารกับบุตรหลานด้วยการใช้ โทรศัพท์ ไลน์ ทั้งนี้ บุตรหลานวัยทำงานที่ออกนอกบ้านมีโอกาสรับเชื้อโรค เมื่อกลับเข้าบ้านควรอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายทันที ไม่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้สูงอายุและเด็กเล็ก เพื่อลดโอกาสการแพร่เชื้อ
สำหรับข้อแนะนำการใช้หน้ากากอนามัย หากต้องการถอดให้จับสายรัดและถอดหน้ากากอนามัยจากด้านหลัง (ไม่สัมผัสตัวหน้ากากเพราะอาจมีเชื้อโรค) ทิ้งในถังขยะที่มีฝาปิดที่ใกล้ที่สุดทันที จากนั้นล้างมือให้สะอาดด้วยน้ำและสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์ สำหรับหน้ากากผ้า ให้ล้างมือให้สะอาดก่อนสวมอย่างถูกวิธี หลังใช้ซักด้วยผงซักฟอก ตากแดดจนแห้ง และเปลี่ยนทุกวัน 
หากเป็นผู้ป่วยหรือต้องดูแลผู้ป่วยในบ้านให้เลือกใช้หน้ากากอนามัย หลังใช้ล้างมือให้สะอาดและทิ้งหน้ากากอนามัยลงถังที่มีฝาปิดมิดชิด ส่วนผู้อยู่ในข่ายเฝ้าระวังที่ต้องกักกันตัวเองที่บ้าน (Self-Home Quarantine) และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ที่ติดตามผู้กักกันตัวเองที่บ้าน หน้ากากอนามัยอาจปนเปื้อนเชื้อโรคจากน้ำมูก น้ำลาย เสมหะ เมื่อใช้งานแล้วให้จับสายรัดและถอดหน้ากากอนามัยจากด้านหลัง (ไม่สัมผัสตัวหน้ากาก) เก็บใส่ถุงขยะ 2 ชั้น และทำลายเชื้อเบื้องต้น โดยราดน้ำยาฟอกขาวมัดปากถุงให้แน่น ทิ้งรวมกับขยะทั่วไป ล้างมือให้สะอาดด้วยน้ำและสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์ทันที
สำหรับหน้ากากอนามัยของบุคลากรทางการแพทย์ เป็นขยะติดเชื้อ ต้องล้างมือให้สะอาด สวมอย่างถูกวิธี ใช้ครั้งเดียว และทิ้งลงถังขยะติดเชื้อก่อนนำไปทำลายอย่างถูกวิธี

 

การดูแลผู้สูงอายุเพื่อลดความเสี่ยงการติดเชื้อโควิด-19 (ภาพจาก กระทรวงสาธารณสุขไทย)

 

3 หลักการ “ลด-เลี่ยง-ดูแล”เพื่อลดความเสี่ยงการติดเชื้อโควิด-19  ในผู้สูงอายุ (ภาพจาก กระทรวงสาธารณสุขไทย)

3

2

มาเป็นคนแรกที่แสดงความคิดเห็น

ข่าวเด่นประเด็นร้อน

ข่าวล่าสุด 最新消息icon
回到頁首icon
Loading