[เว็บไซต์ข่าวรอบโลกสำหรับผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่] ศูนย์บัญชาการควบคุมโรคไต้หวัน (CECC) ประกาศว่า นับจากนี้ไป หากแรงงานต่างชาติจะเปลี่ยนนายจ้างใหม่หรือนายจ้างคนเดิมได้มอบหมายให้แรงงานต่างชาติเปลี่ยนสถานที่ทำงานใหม่ แต่แรงงานต่างชาติได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบโดสแล้ว ไม่จำเป็นต้องเข้ารับการตรวจ PCR แต่นายจ้างและแรงงานต่างชาติควรดำเนินการตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดที่เกี่ยวข้องตามที่ศูนย์บัญชาการและกระทรวงแรงงานกำหนดอย่างเคร่งครัด
อ่านข่าวเพิ่มเติม: สตม.ร่วมกับรัฐบาลเมืองไถหนานมอบบัตรกำนัลสนับสนุนชาวต่างชาติที่พำนักอยู่เกินเข้ารับการฉัดวัคซีนโดยเร็ว
แรงงานต่างชาติที่ฉีดวัคซีนครบโดส ต้องการเปลี่ยนนายจ้างหรือสถานที่ทำงานใหม่ ไม่ต้องตรวจ PCR ภาพจาก/คลังภาพ Pixabay
ศูนย์บัญชาการฯ เผยว่า ศูนย์บัญชาการฯ รณรงค์ให้แรงงานต่างชาติในไต้หวันเข้ารับการฉีดวัคซีนโดยเร็ว เพื่อเพิ่มอัตราการฉีดวัคซีนให้คลอบคลุมและลดโอกาสในการติดเชื้อแบบคลัสเตอร์ หลังจากที่ได้มีการยกเลิกระเบียบการตรวจ PCR นายจ้างยังคงต้องปฏิบัติตามระเบียบการป้องกันการแพร่ระบาดอื่น ๆ อย่างเคร่งครัด เช่น การจัดการหอพัก ผลัดเปลี่ยนเวลาการเข้ากะ และการตรวจสุขภาพ หากไม่ดำเนินการป้องกันโรคระบาดให้สอดรับกับนโยบายป้องกันโรคระบาดของรัฐ มีโทษปรับตั้งแต่ 60,000 ถึง 300,000 เหรียญไต้หวัน และจะถูกเพิกถอนใบอนุญาตการจ้างงานทันที
อ่านข่าวเพิ่มเติม: สตม.เจียอี้รณรงค์ให้ชาวต่างชาติที่พำนักอยู่เกินกำหนดเข้ารับการฉีดวัคซีน พร้อมรณรงค์สั่งไม่ให้ซื้อผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ทางออนไลน์จากต่างประเทศส่งมายังไต้หวัน
แรงงานต่างชาติที่ฉีดวัคซีนครบโดส ต้องการเปลี่ยนนายจ้างหรือสถานที่ทำงานใหม่ ไม่ต้องตรวจ PCR ภาพจาก/คลังภาพ Pixabay
นอกจากนี้ หากนายจ้างมอบหมายให้บริษัทนายหน้ามาช่วยดูแลแรงงานต่างชาติแทน แต่บริษัทนายหน้าทำงานได้ไม่ดีและฝ่าฝืนมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด ตามกฎหมายการจ้างงานบริษัทนายหน้ามีโทษปรับตั้งแต่ 60,000 ถึง 300,000 เหรียญไต้หวัน