ในระหว่างการทำเคมีบำบัด หนึ่งในสิ่งที่ผู้ป่วยกังวลที่สุดคือการลดลงของภูมิคุ้มกัน เนื่องจากเมื่อภูมิคุ้มกันลดลง ร่างกายจะติดเชื้อได้ง่ายขึ้น ซึ่งไม่เพียงแต่ส่งผลต่อการรักษาเท่านั้น แต่ยังเปิดโอกาสให้เนื้องอกเติบโตได้อีกด้วย ดังนั้นการรักษาระบบภูมิคุ้มกันให้คงที่จึงเป็นหนึ่งในภารกิจที่สำคัญที่สุดระหว่างการทำเคมีบำบัด นอกจากการเสริมด้วยอาหารเสริมแล้ว การเลือกอาหารที่ถูกต้องเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการเพิ่มภูมิคุ้มกัน
เก๋ากี้และพุทราจีนเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์อุ่น ช่วยปรับสมดุลระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย (ภาพจาก Heho Health)
อาหารเสริมที่พบได้บ่อยในระหว่างการทำเคมีบำบัด เช่น กลูตามีน น้ำมันปลา และวิตามิน มักถูกเชื่อว่ามีคุณสมบัติ "ต้านมะเร็ง" แต่จริง ๆ แล้วอาหารเสริมเหล่านี้มีหน้าที่หลักคือช่วยเพิ่มสารอาหารและสนับสนุนการทำงานพื้นฐานของร่างกาย สุ ซิ่วเยว่ ผู้อำนวยการแผนกโภชนาการที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ไทเปกล่าวว่า อาหารเสริมเหล่านี้ไม่จำเป็นสำหรับทุกคน และแหล่งสารอาหารที่ดีที่สุดยังคงเป็นอาหารจากธรรมชาติ เว้นแต่ร่างกายจะอ่อนแอมากหรือไม่สามารถรับประทานอาหารได้ จึงไม่แนะนำให้พึ่งพาอาหารเสริม 
ซุปหูหนูขาวและเม็ดบัว (ภาพจาก Heho Health)
การเพิ่มภูมิคุ้มกันต้องเริ่มจากการเพิ่มจำนวนเซลล์เม็ดเลือดขาว ดังนั้นโปรตีนจึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เพราะเป็นวัตถุดิบในการผลิตเซลล์เม็ดเลือดขาวในไขกระดูก ในขณะเดียวกันก็ควรรับประทานอาหารอื่น ๆ ร่วมด้วย เพื่อกระตุ้นไขกระดูกในการผลิตอิมมูโนโกลบูลินซึ่งช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันโดยรวม ยกตัวอย่างเช่น อาหารที่มีเห็ดหอมและเห็ดหูหนูดำซึ่งอุดมไปด้วยพอลิแซ็กคาไรด์ ที่สามารถยับยั้งการเติบโตของเซลล์มะเร็งและเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ซุปหูหนูขาวกับเม็ดบัว ซุปสี่เทพ (ทำจากลูกเดือย เม็ดบัว ลูกบัว และพอเรีย) ชาเก๋ากี้กับพุทราจีน และซุปหวงฉีตังเซิน ล้วนเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยเคมีบำบัด ไม่เพียงแต่จะช่วยเสริมสารอาหาร แต่ยังช่วยให้ผู้ป่วยสามารถรับมือกับความท้าทายทางร่างกายที่เกิดจากการทำเคมีบำบัดได้ดียิ่งขึ้น
ผ่านการรับประทานอาหารอย่างเหมาะสม ผู้ป่วยเคมีบำบัดสามารถรักษาระดับภูมิคุ้มกันให้สูงขึ้นในระหว่างการรักษา ลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ รักษาความต่อเนื่องของการรักษา และเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาโดยรวมและคุณภาพชีวิต นี่คือเหตุผลที่การเลือกอาหารที่เหมาะสมในช่วงการทำเคมีบำบัดเป็นสิ่งสำคัญมาก
