ช่วงหลังโควิด ทำให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางไปต่างประเทศกันจำนวนมาก ตอนที่จัดกระเป๋าเสร็จพร้อมออกเดินทางไปสนามบิน คุณเคยนึกเอะใจไหมว่ากระเป๋าใบที่ Carry On ที่จะนำขึ้นเครื่องไปด้วยหรือกระเป๋าโหลดใต้เครื่อง ใส่อะไรที่เป็นสิ่งต้องห้ามขึ้นเครื่องบินไปด้วยหรือเปล่า พอไม่แน่ใจ ก็รื้อกระเป๋าเพื่อเช็กอีกครั้งหนึ่ง จนบางครั้งเสียเวลามาก ๆ ทำให้ตกเครื่อง เพื่อป้องกันไม่ให้ทริปเที่ยวกร่อยตั้งแต่ยังไม่ทันเริ่ม มารื้อฟื้นความจำกันดีกว่าว่าสิ่งของต้องห้ามห้ามขึ้นเครื่องมีอะไรกันบ้าง
อ่านข่าวเพิ่มเติม : การทำงานกลางแจ้งในช่วงฤดูร้อนเสี่ยงอันตราย กระทรวงแรงงานสุ่มบริษัทที่มีความเสี่ยงสูง
เมื่อเดินทางไปต่างประเทศคุณควรใส่ใจกับระเบียบสัมภาระสิ่งของที่นำขึ้นเครื่อง เพื่อให้ทริปท่านเป็นทริปที่ราบรื่น ภาพ/โดย桃園國際機場
สิ่งแรกที่มักพบบ่อยในกระเป๋าผู้เดินทาง นั่นคือ ของเหลว สามารถนำขึ้นเครื่องบินได้ แต่ว่าต้องเป็นไปตามมาตรการที่สายการบินกำหนดเอาไว้ว่าของเหลวแต่ละขวดต้องไม่เกินเท่าไหร่ หากคุณจะนำแชมพู สเปรย์ เจล หรือสกินแคร์ที่เป็นน้ำ ขึ้นเครื่องไปด้วยก็ต้องแบ่งสิ่งของเหล่านี้ออกเป็นขวดเล็ก ๆ ซึ่งเงื่อนไขในการนำของเหลวขึ้นเครื่อง มีดังนี้ ของเหลวต้องมีความจุไม่เกิน 100 มิลลิลิตรต่อ 1 ชิ้น , ของเหลวที่นำขึ้นเครื่องบินเมื่อรวมกันต้องไม่เกิน 1,000 มิลลิลิตร , ของเหลวทุกอย่างที่ถูกแบ่งเป็นขวดเล็ก ๆ ควรใส่ถุงซิปล็อกหรือถุงใสเอาไว้ด้วย และสามารถนำของเหลวที่ซื้อในเกทขึ้นเครื่องได้ แต่ต้องไม่มีรอยเปิด แกะ หรือฉีกขาด
สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้เวลาออกเดินทางท่องเที่ยวคือแบตสำรองหรือพาวเวอร์แบงค์ เพราะคุณต้องใช้มือถือติดต่อสื่อสารกับเพื่อนร่วมทริป เปิดแผนที่เพื่อดูเส้นทางท่องเที่ยว หรือถ่ายรูปและวิดีโอเพื่อเก็บไว้เป็นความทรงจำ ถึงแม้พาวเวอร์แบงค์จะเป็นของต้องห้ามที่ห้ามโหลดใต้เครื่อง แต่ก็สามารถนำพาวเวอร์แบงค์ขึ้นเครื่องบินได้ โดยแบตเตอรี่สำรองที่ไม่ระบุพลังงานไฟฟ้าหรือระบุไว้แต่เลือนรางจึงไม่สามารถนำขึ้นเครื่องได้ ถ้าจะนำแบตเตอรี่สำรองขึ้นเครื่องบิน ต้องเป็นไปตามเงื่อนไข ดังนี้ พาวเวอร์แบงค์ความจุไม่เกิน 20,000 มิลลิแอมป์นำขึ้นเครื่องบินได้ , พาวเวอร์แบงค์ความจุตั้งแต่ 20,000- 32,000 มิลลิแอมป์ นำขึ้นเครื่องบินได้ไม่เกิน 2 ก้อน , พาวเวอร์แบงค์ความจุมากกว่า 32,000 มิลลิแอมป์ ไม่สามารถนำขึ้นเครื่องบินได้ , อาวุธ ของมีคม และสิ่งเทียมอาวุธ นำขึ้นเครื่องบินในประเทศได้ไหม? สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่อันตรายมาก ๆ ซึ่งเป็นอันตรายต่อทั้งตัวผู้โดยสารเองและผู้โดยสารท่านอื่น ๆ จึงมีกฎว่าห้ามนำอาวุธ ของมีคม หรือสิ่งเทียมอาวุธเข้าสนามบินหรือขึ้นเครื่องบินเด็ดขาด เช่น ปืน สนับมือ คัตเตอร์ ดาบ กระบอง ระเบิด ปืนเด็กเล่น มีดพก สนับมือ ซึ่งของมีคมบางอย่างสามารถนำขึ้นเครื่องบินได้แต่ว่าต้องเป็นการโหลดใต้เครื่องบินเท่านั้น เช่น เข็มเย็บผ้า มีดโกนหนวด กรรไกรตัดเล็บ เป็นต้น
อ่านข่าวเพิ่มเติม : ชุดการบรรยายเรื่อง “ระยะห่างระหว่างชาวไต้หวันกับชาวต่างชาติ” ทำความรู้จักผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่จากมุมต่างๆ
เมื่อเดินทางไปต่างประเทศคุณควรใส่ใจกับระเบียบสัมภาระสิ่งของที่นำขึ้นเครื่อง เพื่อให้ทริปท่านเป็นทริปที่ราบรื่น ภาพ/โดย桃園國際機場
“วัตถุไวไฟ วัตถุระเบิด” ของต้องห้ามที่ห้ามนำขึ้นเครื่องบินเด็ดขาด! ไม่ว่าจะขึ้นเครื่องบินในประเทศหรือขึ้นเครื่องบินต่างประเทศ คุณไม่ควรนำวัตถุไวไฟหรือวัตถุระเบิดไปสนามบินเด็ดขาด เพราะสิ่งเหล่านี้อาจทำให้เกิดปัญหาระหว่างเดินทาง เช่น เครื่องบินไฟไหม้ ส่งผลให้การเดินทางล่าช้า หรือร้ายที่สุดคือมีคนเสียชีวิต ซึ่งวัตถุที่ว่ารวมตั้งแต่ของแข็งและของเหลว เช่น ก๊าซ ดอกไม้ไฟ หรือระเบิด ดังนั้น การไม่นำวัตถุระเบิดหรือวัตถุไวไฟมาด้วยจึงเป็นเรื่องดีที่สุด
ถึงแม้คุณจะไม่ได้นำระเบิดไปสนามบิน หรือไม่ได้นำระเบิดขึ้นเครื่องบินก็จริง แต่ถ้าคิดจะเล่นอะไรแผลง ๆ ด้วยการตะโกนหลอกเพื่อนร่วมทริปว่า “มีระเบิด, ในกระเป๋ามีระเบิด, ระวังเจอระเบิดบนเครื่องบินนะ, เดี๋ยวจะระเบิดสนามบินซะเลย” เรื่องนี้ถือเป็นความผิดตามกฎหมายนะครับ มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ!
สัตว์เลี้ยงสามารถนำขึ้นเครื่องบินได้แต่ต้องโหลดใต้เครื่องบินเท่านั้น ซึ่งการนำสัตว์เลี้ยงโหลดใต้เครื่องก็ขึ้นอยู่กับมาตรการของสายการบินว่าเป็นแบบใด เช่น สัตว์เลี้ยงต้องอายุมากกว่า 2 เดือน และต้องมีใบตรวจสุขภาพจากแพทย์ โดยในใบต้องระบุรายละเอียดของสัตว์เลี้ยง และในกรณีที่เป็นสัตว์มีพิษหรือสัตว์ป่วยห้ามนำขึ้นเครื่องบินหรือโหลดลงใต้เครื่องบินเด็ดขาด
และนี่คือสิ่งของต้องห้ามที่ห้ามนำขึ้นเครื่องบินในประเทศ ที่ต้องห้ามสิ่งเหล่านี้สามารถสร้างความเสียหายต่อส่วนรวมมาก ๆ ซึ่งหวังบทความนี้จะช่วยให้คุณไม่ต้องรื้อกระเป๋าเดินทางแบบ Carry On หรือกระเป๋าโหลดใต้เครื่องใหม่ที่สนามบิน ขอให้ทุกท่านเดินทางปลอดภัยทั้งไปและกลับ