[เว็บไซต์ข่าวรอบโลกสำหรับผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่] กระทรวงแรงงานระบุว่า ตาม “กฎหมายมาตรฐานแรงงาน” วันสิ้นปีจันทรคติ (31 มกราคม) และวันขึ้นปีใหม่จันทรคติ (วันที่ 1 ถึง 3 กุมภาพันธ์) ถือเป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์ ฉะนั้น หากลูกจ้างตกลงทำงานในวันหยุด ตามกฎหมายแล้วนายจ้างจะต้องจ่ายค่าจ้างเป็นสองเท่า คือ ค่าจ้างบวกกับค่าโอที
อ่านข่าวเพิ่มเติม: พนักงานต้องดู! ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 65 เป็นต้นไป หากนายจ้างจัดให้พนักงานทำงานล่วงเวลาไม่ว่าจะเป็นกะกลางวันหรือกะดึกต้องจ่ายค่าโอที
กระทรวงแรงงานเตือน ทำงานในช่วงวันสิ้นปีและวันขึ้นปีใหม่จันทรคติ นายจ้างต้องจ่ายค่าทำงานในช่วงวันหยุดเพิ่ม ภาพจาก/กระทรวงแรงงาน
กระทรวงแรงงาน ชี้แจงว่า หากวิสาหกิจเอกชนมีการจัดรูปแบบวันทำงาน โดยจัดให้วันจันทร์ถึงวันศุกร์เป็นวันทำงานปกติ วันเสาร์เป็นวันหยุดพักผ่อน และวันอาทิตย์เป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตาม “ปฏิทินสำนักงานราชการและหน่วยงานราชการ” ในช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้ได้ปรับให้เป็นวันหยุดยาว 9 วัน ฉะนั้น หากนายจ้างเรียกให้พนักงานมาทำงานในช่วงวันหยุดนี้ ควรจ่ายค่าล่วงเวลาสำหรับวันหยุดพักผ่อนด้วย
นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานขอเตือนว่า วันหยุดเทศกาลตรุษจีนปีนี้อาจตรงกับวันจ่ายเงินเดือนของสถาบันบางแห่ง (เช่น 5 กุมภาพันธ์) หากเป็นไปได้อยากเรียกร้องให้นายจ้างจ่ายค่าจ้างล่วงหน้าก่อนวันหยุดนักขัตฤกษ์ เพื่อให้พนักงานสามารถสนุกสนานรื่นเริงในช่วงวันหยุดได้อย่างเต็มที่ แต่ถ้าหากไม่สามารถจ่ายก่อนล่วงหน้าได้ อย่างน้อยจะต้องโอนเงินเข้าบัญชีให้ตรงตามเวลาเดิมที่กำหนด แบบนี้ถึงจะเรียกว่าทำตามกฎหมายขั้นพื้นฐาน
อ่านข่าวเพิ่มเติม: คุณแม่ต้องรีบดู! รัฐบาลเมืองนิวไทเปประกาศ ปีใหม่นี้ให้กำเนิดบุตรคนที่ 3 จะได้รับเงินอุดหนุนเป็น 30,000 เหรียญไต้หวัน
สายด่วน 1955 ของกระทรวงแรงงานทำงานตลอด 24 ชม. ไม่เว้นแม้แต่วันหยุดในช่วงเทศกาลตรุษจีน ภาพจาก/กระทรวงแรงงาน
กระทรวงแรงงานเน้นย้ำว่า หากนายจ้างฝ่าฝืนกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง พนักงานสามารถนำหลักฐานมายื่นคำร้องต่อองค์การบริหารแรงงานท้องถิ่น “สำนัก(กอง)แรงงาน ของรัฐบาล ทั้งระดับเทศบาล ตำบล เขต เมือง หรือสำนัก(กอง)กิจการสังคม” เพื่อรักษาสิทธิและผลประโยชน์ของตนเอง นอกจากนี้ ยังสามารถโทรรายงานไปยังสายด่วน 1955 ของกระทรวงแรงงานได้ทุกวันตลอด 24 ชม. ไม่เว้นแม้แต่วันหยุดในช่วงเทศกาลตรุษจีน