รัฐบาลญี่ปุ่นไฟเขียวให้ทยอยปล่อยน้ำปนเปื้อนจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะที่ผ่านการบำบัดแล้วลงสู่มหาสมุทรแปซิฟิก ตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคมที่ผ่านมา ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์และความวิตกกังวลของชาวญี่ปุ่นรวมถึงประเทศเพื่อนบ้าน เกี่ยวกับผลกระทบที่อาจส่งผลต่อสัตว์ทะเลและโอกาสในการเกิดอันตรายต่อผู้บริโภค จากเหตุการณ์นี้ทำให้มีประชาชนไต้หวันจำนวนมากแห่ซื้อเกลือมากักตุนไว้ ด้วยเชื่อว่าการทานเกลือเสริมไอโอดีนจะสามารถป้องกันอันตรายจากสารกัมมันตภาพรังสีได้ ภายหลังคณะกรรมการพลังงานปรมาณูไต้หวัน ได้มีการออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงแล้วว่าเป็นความเชื่อที่ผิด นอกจากนี้ยังระบุอีกด้วยว่า ผลการตรวจสอบคุณภาพน้ำทั่วน่านน้ำไต้หวันอยู่ในเกณฑ์ปกติ
อ่านข่าวเพิ่มเติม:กต.ไต้หวันเปิดตัววิดีทัศน์ “แด่ความเสมอภาค” แสดงถึงการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของ UN
คณะกรรมการพลังงานปรมาณูไต้หวันระบุว่า ผลการตรวจสอบคุณภาพน้ำทั่วน่านน้ำไต้หวันอยู่ในระดับปกติ ภาพ/จากเว็บไซต์ของบริษัท Tokyo Electric Power
คณะกรรมการพลังงานปรมาณูไต้หวันระบุว่า ประชาชนไต้หวันจำนวนมากมีความเข้าใจผิดว่า การทานเกลือเสริมไอโอดีนสามารถป้องกันอันตรายจากสารกัมมันตภาพรังสีได้ และเชื่ออีกด้วยว่า เกลือที่วางขายในอนาคตอาจมีการปนเปื้อนของไอโซโทป จึงต้องเร่งซื้อเกลือมากักตุนไว้ในช่วงนี้ คณะกรรมการพลังงานปรมาณูไต้หวันชี้แจงในประเด็นนี้ว่า ข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด นอกจากนี้ เกลือในไต้หวันส่วนใหญ่นำเข้ามาจากออสเตรเลีย และมีการตรวจสอบคุณภาพอยู่เป็นประจำ จึงฝากเตือนไปยังประชาชนว่าไม่จำเป็นต้องวิตกกังวลจนเกินไป
เพื่อเตรียมการรับมือกับเหตุการณ์การปล่อยน้ำปนเปื้อนของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะลงสู่มหาสมุทรแปซิฟิกในครั้งนี้ คณะกรรมการพลังงานปรมาณู คณะกรรมการกิจการมหาสมุทร กระทรวงเกษตร และกระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการ ได้จัดการประชุมร่วมกัน เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และดำเนินการตรวจสอบคุณภาพน้ำทั่วน่านน้ำไต้หวันว่าอยู่ในระดับมาตรฐานขององค์การอนามัยโลกหรือไม่ โดยจะมีการประกาศผลการตรวจสอบทุกวันอังคาร คณะกรรมการพลังงานปรมาณูไต้หวันระบุว่า ตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคมจนถึงปัจจุบัน ผลการตรวจสอบคุณภาพน้ำทั่วน่านน้ำไต้หวันอยู่ในเกณฑ์ปกติ พร้อมเปิดเผยว่า ก่อนสิ้นปีนี้ จะส่งผู้เชี่ยวชาญไปยังฟุกุชิมะ เพื่อเก็บตัวอย่างน้ำมาวิเคราะห์ และดำเนินการทดสอบต่อไป