เทศกาลดนตรีสไตล์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่เป็นครั้งแรก ณ ภาคใต้ของไต้หวัน ศูนย์ดนตรีเกาสง (Kaohsiung Music Center) จัดงาน “M.I.K. Style-Migrants in Kaohsiung Music Festival” ครั้งแรก ณ ลานด้านหน้าของศูนย์ดนตรีเกาสง ในวันที่ 17 ธันวาคมนี้
เทศกาลดนตรีมีไลน์อัพที่แข็งแกร่ง ศูนย์ดนตรีเกาสงไม่เพียงแต่เชิญวง Retrospect จากประเทศไทย ถือได้ว่าเป็นวงที่มีชื่อเสียงเทียบเท่ากับวงอู่เยว่เทียน (MayDay) ของไต้หวันเลยทีเดียว ต่อมายังมีวงดนตรีระดับโลกที่ร้องเพลงพื้นบ้านฟิลิปปินส์อย่าง Talahib People's Music ตามด้วย SoegiBornean วงดนตรียอดนิยมที่มียอดผู้เข้าชมบนยูทูปกว่า 30 ล้านครั้ง พร้อมด้วยนักร้องนักแต่งเพลงและนักแสดงชาวเวียดนาม LENA เตรียมขึ้นเวทีจุดประกายความมีชีวิตชีวาทางดนตรีในภาคใต้ของไต้หวันเสาร์นี้
เทศกาลดนตรีสไตล์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่เป็นครั้งแรก ณ ภาคใต้ของไต้หวัน ภาพจาก : Kaohsiung Music Center
นอกจากนี้ ศูนย์ดนตรีเกาสงยังได้เชิญวง “南部鬧事團” (วงจลาจลภาคใต้) ซึ่งเป็นวงที่เกิดจากการรวมตัวกันของกลุ่มแรงงานต่างชาติในไต้หวัน ร่วมขึ้นจัดแสดงบนเวทีเป็นพิเศษ โดยนักร้องนำของวงเป็นคนพื้นเมืองชาวไต้หวัน อาป้าว (阿爆) หรือมีอีกชื่อหนึ่งว่า อาเหริงเหริง (阿仍仍) และผู้ที่พึ่งได้รับรางวัลเพลงทองคนใหม่ “วง Wild Thing” ในวันงาน ยังมีการจัดร้านขายอาหารสูตรต้นตำรับ งานฝีมือ และตลาดสไตล์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้กว่า 30 ร้าน เริ่มตั้งแต่เที่ยงวันจนถึงค่ำ ให้ผู้ที่มาร่วมงานได้สัมผัสประสบการณ์ทางวัฒนธรรมอย่างจุใจ
วง Soegi Bornean อินโดนีเซีย ภาพจาก : Kaohsiung Music Center
อาป้าว นักร้องชาวพื้นเมืองที่มีชื่อเสียงในไต้หวัน ภาพจาก : Kaohsiung Music Center
หลี่ซินอวิ๋น (李欣芸) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารศูนย์ดนตรีเกาสง เคยกล่าวไว้ในการสัมภาษณ์ว่า แรงงานต่างชาติและผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ที่ย้ายมาอาศัยอยู่ในไต้หวัน พวกเขาคอยผลักดันเศรษฐกิจและช่วยเหลือด้านกำลังแรงงานการก่อสร้างร่วมกับเรา คอยทำหน้าที่รับใช้ครอบครัวของเรา และทำให้ชีวิตของเราดีขึ้น เธอหวังว่า “สถานที่แห่งนี้จะเป็นพื้นที่ที่เปรียบเสมือนบ้านเกิดของพวกเขาได้มากที่สุด”
เมื่อรู้ว่างานนี้ได้มีการเชิญผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่มาร่วมแสดงเป็นพิเศษ เฉินเพ่ยถิง (陳佩婷) ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดของ “Mommy Baby” รู้สึกประทับใจมาก “ก่อนที่เหล่าบรรดาแม่ ๆ ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่จะย้ายมาอยู่ไต้หวัน พวกเขาต่างเคยเป็นวัยรุ่นสาวที่ชอบฟังเพลงและเต้นเหมือนกัน” เธอกล่าวว่า รอบตัวเธอมีคุณแม่ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่เยอะมาก และเธอเชื่อว่าคอนเสิร์ตครั้งนี้จะสามารถปลอบประโลมหัวใจในต่างแดนผ่านภาษาและเพลงที่คุ้นเคยสำหรับพวกเขาได้