ทั่วโลกยังคงมีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง เพื่อลดความเสี่ยงของเชื้อที่จะเข้ามาจากนอกประเทศและแพร่ระบาดในชุมชน รวมทั้งปกป้องสุขภาพของประชาชน ศูนย์บัญชาการกลางป้องกันโรคติดต่อไต้หวันได้ใช้กลยุทธ์ที่หลากหลายเพื่อให้สอดคล้องกับการแพร่ระบาดของโรคในต่างประเทศ ผู้ที่ต้องการเดินทางกลับไต้หวันต้องตรวจสอบกฎระเบียบและวางแผนการกักกันโรคก่อนเดินทาง
ควบคุมการกักกันโรคที่ชายแดนอย่างเข้มงวด
ในช่วงของการแพร่ระบาดของโรค ศูนย์บัญชาการกลางป้องกันโรคติดต่อไต้หวันได้เพิ่มความเข้มงวดในการในการควบคุมการกักกันโรคที่ชายแดน ผู้ที่เดินทางเข้าไต้หวันทั้งหมดจะต้องทำการกักกันโรค 14 วัน และกรอกแบบฟอร์มรับรองสุขภาพ (健康聲明卡) หรือใช้โทรศัพท์มือถือเพื่อกรอกแบบฟอร์มรับรองสุขภาพออนไลน์ (入境檢疫系統) สำหรับชาวต่างชาติ ชาวฮ่องกงและมาเก๊าที่เดินทางเข้าไต้หวันจะต้องแนบผลการตรวจกรดนิวคลีอิกเพื่อหาเชื้อโควิด-19 ที่ให้ผลเป็นลบด้วย
หากผู้โดยสารระบุว่าภายใน 14 วันที่ผ่านมาก่อนเดินทาง รู้สึกไม่สบาย เช่น มีไข้ หรือไอ ก็จะต้องได้รับการตรวจโรคที่สนามบินหรือโรงพยาบาล และต้องนั่งรถพิเศษไปยังสถานที่ที่กำหนดเพื่อดำเนินมาตรการกักกันโรค หลังจากการทดสอบเป็นลบและอาการทุเลาลงก็จะให้กลับไปกักตัวที่บ้าน นอกจากนี้ ผู้ที่เดินทางมาจากฟิลิปปินส์จะต้องให้ความร่วมมือตรวจโควิด-19 ที่สนามบินและทำการกักกันโรค
หากชาวไต้หวันในต่างประเทศได้รับการวินิจฉัยยืนยันการติดเชื้อในต่างประเทศและต้องการเดินทางกลับประเทศต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง (ดูรายละเอียดที่นี่) นอกจากนี้นักธุรกิจระยะสั้นจากประเทศที่มีความเสี่ยงในการติดเชื้อต่ำและประเทศที่มีความเสี่ยงในการติดเชื้อปานกลางสามารถยื่นขอลดระยะเวลาการกักกันโรค(รายละเอียดเพิ่มเติมอัพเดดวันที่ 5 ส.ค.)
งานป้องกันโรคระบาดในชุมชนที่ประมาทไม่ได้
เนื่องจากระยะการฟักตัวของไวรัสโควิด-19 มีระยะเวลานานสูงสุด 22 วัน สำหรับการกักกันโรคแบบแยกและการกักกันโรคที่บ้าน 14 วัน ผู้ที่เป็นอิสระจากการกักกันดังกล่าวจะได้รับข้อความแจ้งเตือนให้ทำการจัดการดูแลสุขภาพด้วยตนเองอีก 7 วัน และทุกๆ วันจะมีข้อความส่งไปหาเพื่อให้ประชาชนรายงานสถานะสุขภาพ หากมีอาการใดๆ ก็สามารถรายงานผ่านข้อความได้ หน่วยงานสาธารณสุขก็จะช่วยเหลือส่งไปรักษาพยาบาลต่อไป หากผู้ที่อยู่ในระหว่างการกักกันโรคจำเป็นต้องออกไปงานศพหรือเยี่ยมญาติที่เจ็บป่วยร้ายแรงก็สามารถยื่นคำร้องต่อหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่เพื่อขอออกไปข้างนอก
ในส่วนของอุปกรณ์ป้องกันการแพร่ระบาดของโรค ระบบการซื้อหน้ากากอนามัยแบบระบุตัวตนสามารถซื้อได้ 2 สัปดาห์ต่อ 1 ครั้ง และครั้งละ 9 ชิ้น สำหรับหน้ากากอนามัยผู้ใหญ่ และ10 ชิ้น สำหรับหน้ากากอนามัยเด็ก นอกจากนี้ รัฐบาลกำลังจัดหาอุปกรณ์ป้องกันอื่นๆ เช่น ชุดป้องกันโรค หน้ากาก N95 ให้พอเพียงต่อการใช้งานเพื่อรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ที่ทำงานป้องกันโรคอยู่ในระดับแนวหน้า