ดอกไม้ริมแม่น้ำบานสะพรั่งอีกระลอก สวนดอกไม้สไตล์ "สวนอังกฤษ" ที่สวนริมแม่น้ำเหยียนผิงเริ่มเบ่งบานต่อเนื่อง จุดชมดอกไม้อยู่ใกล้กับท่าเรือต้าต้าถง กรมทรัพยากรน้ำไทเปได้เลือกใช้ดอกไม้ตามฤดูกาลมาจัดสวน สร้างบรรยากาศโรแมนติกใต้เงาต้นไม้ใหญ่ที่โค้งงอ พร้อมตกแต่งด้วยไฟประดับเฉพาะตัวที่ช่วยเพิ่มความรู้สึกแห่งเทศกาล โดยช่วงเวลาเยี่ยมชมดอกไม้เริ่มตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันคริสต์มาสปีนี้
กรมทรัพยากรน้ำได้เลือกใช้ดอกซีเลียเกือบ 10,000 ต้นเป็นไฮไลต์หลักของสวนดอกไม้ในปีนี้ โดยยังคงรักษาความเป็นสวนดอกไม้ป่าเอาไว้ ดอกซีเลียถูกจัดให้เข้ากันกับดอกแองเจโลเนียสีชมพู สีขาว สีม่วง และดอกสแนปดรากอนสีชมพู จัดวางด้วยพืชพรรณที่มีสีคล้ายกันแต่ความสูงต่างกัน สร้างความโดดเด่นเป็นชั้นๆ ให้กับทุ่งดอกไม้ นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มความสดใสด้วยซัลเวียและเสจเม็กซิกันที่มีสีฟ้าม่วง ซึ่งช่วยเน้นความงดงามอ่อนโยนของริมฝั่งแม่น้ำได้อย่างลงตัว
สำนักงานวิศวกรรมไฮดรอลิกเลือกดอกไม้ประเภท Spider Flower จำนวนเกือบ 10,000 กระถางเป็นการออกแบบหลักสำหรับทะเลดอกไม้ (ภาพโดยสำนักงานวิศวกรรมไฮดรอลิกเทศบาลนครไทเปและ Toco Living Magazine)
กรมทรัพยากรน้ำกล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากดอกไม้หลากหลายชนิด ปีนี้ทุ่งดอกไม้ยังขยายไปจนถึงริมฝั่งแม่น้ำ โดยมีการโรยเมล็ดดอกคอสมอสสีสันสดใสตามแนวทางเดิน "เส้นทางดอกไม้ไฟ" ซึ่งสองข้างทางเต็มไปด้วยดอกไม้หลากสีสันสวยงามที่ทำให้นักท่องเที่ยวรู้สึกสดชื่นและมีความสุขมากขึ้น ในช่วงกลางคืนยังมีการติดตั้งไฟประดับที่ทอดยาวไปจนถึงสนามหญ้า โดยมีไฮไลต์เป็นไฟรูปดอกแดนดิไลออนที่ทำให้สวนทั้งสวนสว่างไสว และมีโคมไฟต้นกกที่ให้ความรู้สึกเหมือนดอกแดนดิไลออนที่ปลิวไปตามลม สนามหญ้าสีเขียวประดับด้วยไฟตาข่ายสีม่วงและน้ำเงินที่เข้ากันกับกล่องของขวัญใต้ไฟดอกแดนดิไลออน เพิ่มบรรยากาศแห่งความอบอุ่นของเทศกาลคริสต์มาสริมแม่น้ำตั้นสุ่ย
ช่วงเวลายามเย็น พระอาทิตย์ตกที่ทอแสงเหนือแม่น้ำตั้นสุ่ยยิ่งเป็นภาพที่สวยงามของพื้นที่ริมแม่น้ำไทเป ชาวเมืองสามารถจัดทริปเที่ยวชมครึ่งวันริมแม่น้ำ โดยเริ่มจากท่าเรือต้าต้าถง เดินเข้าสวนริมแม่น้ำเหยียนผิง เพลิดเพลินกับอาหารนานาชาติที่ตลาดตู้คอนเทนเนอร์ต้าต้าถง แล้วปั่นจักรยานหรือเดินชิลๆ ไปจนถึงประตูน้ำที่ 5 เพื่อชมทุ่งดอกไม้อันงดงามหลากสีสัน
ทะเลดอกไม้ริมแม่น้ำเหยียนผิงยามเย็น (ภาพโดยสำนักงานวิศวกรรมไฮดรอลิกเทศบาลนครไทเปและ Toco Living Magazine)
แหล่งข้อมูล: นิตยสาร Toco Living Magazine
