รัฐบาลมณฑลผิงตงขอให้แรงงานข้ามชาติรักษาระยะห่างทางสังคมเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค

กองพัฒนาแรงงานและเยาวชน รัฐบาลมณฑลผิงตงต้องการประชาสัมพันธ์การรักษาระยะห่างทางสังคมแก่แรงงานข้ามชาติ โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วจึงได้เดินทางไปยังท่าเรือตงกั่ง และท่าเรือประมงเหยียนปู้พร้อมกับเจ้าหน้าที่หน่วยยามฝั่งและล่ามแปลภาษาเพื่อทำการประชาสัมพันธ์การใช้แอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อโรค การล้างมือที่ถูกวิธี เวลาที่ต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยและการรักษาระยะห่างทางสังคม รวมทั้งแนวคิดการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคที่ถูกต้องให้กับแรงงานชาวประมง ก่อนหยุดยาววันแรงงานที่กำลังจะมาถึง เป็นการปกป้องสุขภาพและความปลอดภัยของแรงงานข้ามชาติ

นายหลิ๋น เต๋อฮุย (林德輝) ผู้อำนวยการกองพัฒนาแรงงานและเยาวชนกล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 25 เม.ย.เป็นต้นไป ทุกๆ วันหยุดสุดสัปดาห์จะมีการส่งเจ้าหน้าที่ไปประชาสัมพันธ์การป้องกันการแพร่ระบาดของโรคตามสถานที่ที่แรงงานข้ามชาติมักจะรวมตัวพบปะกัน เช่น สถานีรถไฟ มัสยิด โบสถ์ ตลาดปลาตงกั่ง สวนสาธารณะกลางแจ้ง รวมทั้งสวนอุตสาหกรรมขนาดใหญ่แต่ละแห่ง เป็นต้น การประชาสัมพันธ์ยังมีการทำแผ่นป้ายและการแจกใบปลิวภาษาจีน ไทย เวียดนาม อินโดนิเซีย และอังกฤษ เพื่อขอให้แรงงานข้ามชาติรักษาระยะห่างทางสังคม โดยในอาคารรักษาระยะห่าง 1.5 เมตร ส่วนนอกอาคาร 1 เมตร นอกจากนี้ยังได้ทำการประกาศเสียงตามสายเพื่อให้ความรู้ด้านสุขภาพ 4 ภาษาแก่แรงงานข้ามชาติ ให้แรงงานข้ามชาติรักษาระยะห่างระหว่างกัน

กองพัฒนาแรงงานและเยาวชนกล่าวว่า ในการเผชิญกับไวรัสโควิด-19 ที่ไม่รู้จักและมองไม่เห็นที่กำลังระบาดไปทั่วโลกได้สร้างความวิตกกังวลให้กับประชาชนเป็นอย่างมาก ตราบใดที่คนมากกว่าครึ่งรักษาระยะห่างทางสังคมก็จะสามารถลดการติดต่อทางสังคมลง 50% ทุกคนสามารถใช้ชีวิตประจำวันที่เรียกว่า "กึ่งปกติ" ได้ในขอบเขตที่จำกัด ยังสามารถเดินเล่นหรือซื้อของที่ร้านค้าได้ แต่ต้องเคารพผู้อื่น และปกป้องตนเอง ซึ่งทุกคนมีหน้าที่รับผิดชอบ

แรงงานข้ามชาติที่ไม่สามารถรักษาระยะห่างจากสังคมได้ก็ให้สวมหน้ากากอนามัย และล้างมือฆ่าเชื้อโรคบ่อยๆ หากมีอาการไม่สบาย เช่นมีไข้หรือไอก็ให้รีบไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด โดยนายจ้างสามารถช่วยโทรแจ้งที่สายด่วนป้องกันโรค 1922  (หรือ 0800-001922) หรือโทรสายด่วยให้คำปรึกษาแรงงาน 1955