[เว็บไซต์ข่าวรอบโลกสำหรับผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่] ผู้แปล/นงค์รักษ์ เหล่ากอคำ (李慧毓)
ประธานาธิบดีไช่อิงเหวินเพิ่งเข้าร่วมงาน "AIC Innovation Forum " ซึ่งจัดโดยสมาคมอเมริกันในไต้หวัน(AIT) ชี้ให้เห็นว่าภาวะโลกร้อนเป็นหัวข้อสำคัญ ประเทศส่วนใหญ่ได้มีการตั้งเป้าหมายในการเปลี่ยนแปลงปัญหาภาวะโลกร้อนภายในปี 2050 ไต้หวันเองก็เช่นกัน โดยไต้หวันรณรงค์ให้ภาคอุตสาหกรรมลดการปล่อยคาร์บอนไดร์ออกไซด์ เพื่อช่วยลดภาวะโลกร้อน
"ศูนย์นวัตกรรมอเมริกัน" ในเครือของสถาบันอเมริกันในไต้หวัน ได้จัดกิจกรรมนวัตกรรมประจำปี เพื่อเน้นย้ำถึงแนวคิดเรื่องความยั่งยืนของนวัตกรรม ภายใต้หัวข้อ "ความยั่งยืนของโลก" ในขณะเดียวกันเพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สหภาพยุโรปได้เสนอนโยบายสีเขียวของยุโรป พร้อมประกาศการเริ่มต้นเก็บภาษีคาร์บอน เพื่อบรรลุเป้าหมาย "การปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์" ก่อนที่จะถึงปี 2050 โดยขณะนี้ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ได้มีการตั้งเป้าหมายเวลาสำหรับการปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์แล้ว ส่วนไต้หวันเองก็จะมีการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาปรับใช้ เพื่อไม่ให้ล้าหลังเทรนด์สากลเช่นกัน
ประธานาธิบดีไช่อิงเหวินกล่าวว่า ไต้หวันกำลังปรับใช้เป้าหมายของการปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ภายในปี 2050 อุตสาหกรรมจำนวนมากได้ใช้นโยบายนี้ เพื่อเป็นโอกาสในการเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของไต้หวันในห่วงโซ่อุปทานโลก ขณะนี้ไต้หวันได้ดำเนินนโยบายการลดภาวะโลกร้อนอย่างจริงจัง เพื่อชัยชนะของไต้หวันและโลกของเราเอง
หลี่อิงเจ๋ย(酈英傑) ผู้อำนวยการสมาคมอเมริกันในไต้หวันกล่าวว่า ประธานาธิบดีไบเดนของสหรัฐฯระบุว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นหัวใจหลักของนโยบายการทูตต่างประเทศและนโยบายความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ AIT ยังมุ่งมั่นที่จะหาแนวทางแก้ไขและร่วมมือกับไต้หวันอย่างต่อเนื่อง โดยหวังจะใช้แนวทางที่ครอบคลุม ซึ่งรวมถึงการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมและมาตรการรับมือภัยพิบัติ เพื่อต่อสู้กับผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต่อไป