0918.jpg)
[เว็บไซต์ข่าวรอบโลกสำหรับผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่] เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ คุณหมอชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ออกมาแสดงท่าทีต่อปัญหาเรื่องประชากรของประเทศไทย โดยได้กล่าวถึงประเด็นที่คนไทยไม่อยากมีลูกว่า“ลูกมากจะยากจน ต้องเอาออกจากสมองคนไทย คนไทยไม่ยอมมีลูก โดยเฉพาะคนที่มีพื้นฐานการศึกษาที่ดี มีความรู้มีความสามารถ มีฐานเศรษฐกิจที่รองรับ หลายคู่แต่งงานปุ๊บ บังคับให้สามีทำหมันเลย ไม่อยากมีลูก” พร้อมเผยว่าจะผลักดันนโยบายช่วยส่งเสริมให้คนไทยมีลูกมากขึ้นเป็นวาระแห่งชาติอีกด้วย
อ่านข่าวเพิ่มเติม : วารสารนานาชาติชี้ เดินวันละ 4,000 ก้าว ลดความเสี่ยงการเสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ !
ตามข้อมูลจากบทความ จิตแพทย์เปิดเหตุผลสำคัญ ทำไมคนไทยมีลูกช้ามาก? ของสำนักข่าวเดลินิวส์ออนไลน์ พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ ได้กล่าวถึงเหตุผลที่คนไทยมีลูกน้อยลงว่า ส่วนหนึ่งมาจากการห่วงความโสด ไม่อยากมีลูก หรือรอให้พร้อมก่อนจึงค่อยมีลูก ทำให้ประชาชนบางส่วนมีลูกตอนอายุมาก นำมาซึ่งปัญหาการมีบุตรยาก ประกอบกับในปัจจุบันผู้หญิงมีการเรียนต่อจนอายุมากขึ้น รวมทั้งมีความคาดหวังต่อคุณภาพของลูกและให้ความสำคัญถึงบทบาทความเป็นพ่อแม่มากขึ้น จึงต้องการมีลูกเมื่อพร้อมจริงๆ แต่กว่าจะรอให้ถึงวันที่พร้อมตามมาตรฐานที่ตั้งกันไว้ ความสามารถในการมีบุตรก็ลดน้อยลงเสียแล้ว
แม้วิทยาศาสตร์การแพทย์ในปัจจุบันจะสามารถช่วยเอาชนะปัญหาหลายๆอย่างของคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ตอนอายุมากได้มีประสิทธิภาพมากกว่าเมื่อเทียบกับในอดีต อย่างไรก็ตาม พญ.อัมพร ก็ยังอยากแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่ พิจารณาการสร้างครอบครัวและมีลูก ขณะที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์ มีความพร้อมทางร่างกายและจิตใจ ซึ่งจะราบรื่นและลงตัวมากกว่าการไปใช้บริการคลินิกสำหรับผู้มีบุตรยาก สำหรับช่วงอายุที่เหมาะสมจะมีลูก นั้น บทความในเว็บไซต์ รามาแชนแนล ระบุว่า ตามหลักทางการแพทย์แล้ว ช่วง 20-35 ปี เป็นช่วงอายุที่เหมาะสมในการมีลูก เพราะเป็นช่วงที่ผู้หญิงมีร่างกายแข็งแรง หากอายุ 35 ปีขึ้นไป จะจัดอยู่ในกลุ่มของผู้หญิงที่มีความเสี่ยงในการตั้งครรภ์
อ่านข่าวเพิ่มเติม:การบริโภควิตามินซีมากเกินไป อาจส่งผลให้การตรวจพบโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ล่าช้า
