[เว็บไซต์ข่าวรอบโลกสำหรับผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่] ผู้แปล/นงค์รักษ์ เหล่ากอคำ (李慧毓)
ศูนย์บัญชาการแพร่ระบาดของโรคส่วนกลาง ประกาศเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคมว่า มีผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศใหม่ 6 ราย และผู้ติดเชื้อในประเทศใหม่ 2 ราย โดยผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศได้เดินทางมาจากเนเธอร์แลนด์ (กรณีที่ 1139 กรณีที่ 1140) และอินโดนีเซีย (กรณีที่ 1141 ถึงกรณีที่ 1143) และอุซเบกิสถาน (กรณีที่ 1144) ส่วนผู้ติดเชื้อในประเทศ 2 ราย หนึ่งในนั้นมีประวัติเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมป้องกันการแพร่ระบาดของโรงแรมในสนามบิน (กรณีที่ 1145) และอีกรายได้มีการอาศัยอยู่กับนักบินที่มีผลบวกของเที่ยวบินออสเตรเลีย (กรณีที่ 1146)
ในส่วนของกรณีที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ศูนย์บัญชาการการแพร่ระบาดระบุว่า กรณีที่ 1139 เป็นชายชาวดัตช์ วัย 40 ปี เมื่อวันที่ 10 เมษายนได้เดินทางมาทำงานที่ไต้หวัน โดยมีรายงานผลการทดสอบเป็นลบภายใน 3 วันก่อนบินเข้าประเทศ หลังจากที่เดินทางมาถึงได้เดินทางต่อไปยังโรงแรมเพื่อทำการกักตัวทันที ต่อมาในวันที่ 25 เมษายน หลังจากที่ครบกำหนดวันกักตัว ทางบริษัทได้จัดให้มีการจัดการด้านสุขภาพที่เป็นอิสระในที่อยู่อาศัยใหม่ต่อ เนื่องด้วยความจำเป็นในการทำงาน ในวันที่ 1 พฤษภาคมทางบริษัทได้จัดรถพิเศษให้ไปตรวจเชื้ออีกครั้ง และการวินิจฉัยได้รับการยืนยันแล้วในวันนี้ว่าติดเชื้อโควิด (ค่าCt คือ 29 หลังจากได้รับการรักษาในโรงพยาบาล ค่าCt คือ 33 แอนติบอดีทั้ง IgM และ IgG ในซีรัมเป็นบวก) กรณีนี้ไม่มีอาการระหว่างที่เขาอยู่ในไต้หวัน และมีการระบุรายชื่อผู้ที่สัมผัสที่เดินทางมาในรถคันเดียวกันจำนวน 12 คน ซึ่งขณะนี้ทุกคนได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ศูนย์บัญชาการการแพร่ระบาดระบุว่า กรณีที่ 1140 เป็นลูกเรือชาย ชาวเนเธอร์แลนด์ อายุ 30 ปี ซึ่งเข้ามาทำงานในไต้หวันเมื่อวันที่ 8 เมษายน โดยมีรายงานผลการทดสอบเป็นลบภายใน 3 วันก่อนบินเข้าประเทศ หลังจากที่มาถึงได้เดินทางต่อไปยังโรงแรมเพื่อทำการกักตัวทันที ในวันที่ 23 เมษายนหลังวันครบกำหนดการกักตัว บริษัทได้จัดให้มีการจัดการด้านสุขภาพอย่างอิสระในที่อยู่อาศัยใหม่ เนื่องด้วยความจำเป็นในการทำงาน ในวันที่ 1 พฤษภาคมทางบริษัทได้จัดรถพิเศษให้ไปตรวจเชื้ออีกครั้ง และการวินิจฉัยได้รับการยืนยันแล้วในวันนี้ว่าติดเชื้อโควิด (ค่าCt คือ 33) กรณีนี้ไม่มีอาการระหว่างที่เขาอยู่ในไต้หวัน และมีการระบุรายชื่อผู้สัมผัสจำนวน 32 ราย ซึ่งทุกคนได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ศูนย์บัญชาการการแพร่ระบาดระบุว่า กรณีที่ 1141 ถึง กรณีที่ 1143 เป็นชาวประมงชาย ชาวอินโดนีเซีย อายุระหว่าง 10 ถึง 40 ปี ซึ่งเดินทางมาทำงานที่ไต้หวัน เมื่อวันที่ 19 เมษายน โดยทั้งหมดมีรายงานผลการทดสอบเป็นลบภายใน 3 วันก่อนบินเข้าประเทศ หลังจากที่พวกเขาเดินทางมาถึงไต้หวัน ได้มีการเดินทางไปยังศูนย์กักตัวส่วนกลางทันที ต่อมาในวันที่ 2 พฤษภาคมก่อนวันครบกำหนดของการกักตัวได้ทำการตรวจอีกครั้ง และการวินิจฉัยได้รับการยืนยันในวันนี้ว่าติดโควิด ทั้ง 3 กรณีนี้ไม่มีอาการระหว่างที่พวกเขาอยู่ในไต้หวัน และพวกเขาไม่ได้สัมผัสกับผู้อื่นในช่วงระยะเวลาของการกักตัว ดังนั้นจึงไม่มีรายชื่อผู้สัมผัสเพิ่มเติม
ศูนย์บัญชาการการแพร่ระบาดระบุว่า กรณีที่ 1144 เป็นหญิง ชาวไต้หวัน วัย 20 ปี เมื่อวันที่ 21 เมษายน เธอได้เดินทางไปทำงานที่อุซเบกิสถาน และกลับมาไต้หวันในวันที่ 27 เมษายน โดยมีรายงานผลการทดสอบเป็นลบภายใน 3 วันก่อนบินเข้าประเทศ หลังจากที่มาถึงได้เดินทางต่อไปยังบ้านเพื่อทำการกักตัวทันที ต่อมาในวันที่ 28 เมษายน เริ่มมีอาการปวดศีรษะ มีไข้และคลื่นไส้ จนถึงวันที่ 30 เมษายนอาการของเธอก็ไม่ดีขึ้น ดังนั้นหน่วยอนามัยจึงจัดให้มีการเข้ารับการตรวจสุขภาพ และได้รับการยืนยันแล้วในวันนี้ว่าติดเชื้อโควิด (ค่าCt คือ 28) กรณีนี้ได้มีผู้สัมผัสจำนวน 3 คน ซึ่งทุกคนมีรายชื่ออยู่ในเขตกักบริเวณภายในบ้านเรียบร้อยแล้ว
ต่อมาเป็นผู้ติดเชื้อภายในประเทศ ศูนย์บัญชาการการแพร่ระบาดระบุว่า กรณีที่ 1145 เป็นชายชาวไต้หวัน วัย 40 ปี ซึ่งเป็นพนักงานของผู้รับเหมาในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรงแรมสนามบิน เขาทำงานที่โรงแรมตั้งแต่ต้นเดือนเมษายนถึงวันที่ 28 เมษายน นอกจากวันหยุดแล้วเขาเดินทางมาทำงานที่โรงแรมทุกวัน ในวันที่ 28 เมษายนเขาเริ่มมีอาการไอ ต่อมาในวันที่ 30 เมษายน ได้เดินทางไปหาหมอเพื่อทำการรักษาพร้อมตรวจเชื้อ และได้รับการยืนยันการวินิจฉัยในวันนี้ว่าติดโควิด (ค่าCt คือ 13) จากข้อมูลเบื้องต้นมีรายชื่อผู้สัมผัสจำนวน 23 ราย แบ่งเป็น 20 รายมีการกักตัวที่บ้าน และอีก 3 รายจัดให้มีการตรวจสอบสุขภาพตนเอง ในส่วนของไทม์ไลน์และรายชื่อผู้สัมผัสกำลังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบเพิ่มเติม
ศูนย์บัญชาการการแพร่ระบาดได้มีการระบุเพิ่มเติมว่า พนักงานที่ทำงานในโรงแรมตั้งแต่วันที่ 19 เมษายนถึง 28 เมษายน มีจำนวนทั้งหมด 74 คน ซึ่งรวมถึงนักศึกษาฝึกงานและพนักงานที่ได้ลาออกแล้ว ขณะนี้มี 57 คนได้รับการตรวจแล้ว แบ่งเป็น 43 คนมีผลตรวจเป็นลบ 1 คนมีผลตรวจเป็นบวก (กรณีที่ 1145) และอีก 13 คนอยู่ระหว่างการรอผลตรวจ ในส่วนที่เหลือ 17 คนอยู่ระหว่างการรอเข้ารับการตรวจ
ศูนย์บัญชาการการแพร่ระบาดระบุว่า กรณีที่ 1146 เป็นหญิงชาวอินโดนีเซีย อายุ 10 กว่าปี ซึ่งเป็นสมาชิกในครอบครัวของนักบินที่ติดเชื้อโควิดที่ตรวจพบในออสเตรเลีย กรณีที่ 1090 และกรณีที่ 1111 โดยเธอไม่มีประวัติเดินทางไปต่างประเทศเมื่อเร็วๆนี้ เมื่อวันที่ 21 เมษายน เธอเข้ารับการตรวจแล้วมีผลเป็นลบ ต่อมาในวันที่ 30 เมษายน เธอได้มีอาการตัวร้อน น้ำมูกไหล เจ็บคอ ฯลฯ เนื่องจากอาการของเธอไม่ได้รุนแรง ดังนั้นจึงไม่ได้มีการแจ้งให้หน่วยอนามัยทราบ จนกระทั่งวันที่ 2 พฤษภาคมได้มีการตรวจอีกครั้ง และได้รับการยืนยันการวินิจฉัยในวันนี้ว่าติดโควิด (ค่าCt คือ 19) เนื่องจากกรณีนี้อยู่ในช่วงเวลาของการกักตัว ดังนั้นจึงไม่มีการสัมผัสกับผู้อื่น จึงไม่มีรายชื่อกลุ่มเสี่ยงเพิ่มเติม
จากสถิติของศูนย์บัญชาการแพร่ระบาดของโรคขณะนี้ มีผู้ติดเชื้อแล้วทั้งหมด 209,150 ราย ในประเทศจีน (ไม่รวม 207,197 ราย ในจีนแผ่นดินใหญ่) ซึ่งมีผู้ติดเชื้อสะสมในไต้หวันจำนวน 1,145 ราย ประกอบด้วย ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศจำนวน 1,003 ราย ผู้ติดเชื้อในท้องถิ่น 94 ราย ผู้ติดเชื้อจากกองเรือตุนมู่(敦睦) 36 ราย ผู้ติดเชื้อบนเครื่องบิน 2 ราย ไม่ทราบสาเหตุอีก 1 ราย อยู่ในระหว่างการตรวจสอบแหล่งที่มาของเชื้อ 9 ราย และ(กรณีที่ 530) เป็นหมายเลขว่าง โดยมีผู้เสียชีวิตแล้ว 12 รายและอีก 1,058 ราย ได้รับการปล่อยตัวจากการกักตัวแล้ว ที่เหลืออีก 75 ราย ยังคงรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลต่อไป