【เว็บไซต์ข่าวรอบโลกสำหรับผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่】สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป ประจำประเทศไทย และคณะชาวจีนโพ้นทะเลในไทยทราบว่าช่วงโรคโควิด-19 ระบาด ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย กำลังขาดแคลนเลือด จึงได้แสดงน้ำใจชาวไต้หวัน โดยจัดสัปดาห์บริจาคโลหิตเพื่อการกุกล ระหว่างวันที่ 5 – 9 ต. ค. 2021 ณ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย (National Blood Center, Thai Red Cross Society)และเชิญชวนให้ชาวไต้หวันและชาวจีนโพ้นทะเลมาร่วมถกแขนเสื้อส่งมอบน้ำใจ
อ่านข่าวเพิ่มเติม: 30,000 เหรียญไต้หวันต่อคน! กองทุนช่วยเหลือสำหรับ 8 อุตสาหกรรมหลักเปิดให้ลงทะเบียนรับเงินเยียวยาแล้ว
สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป ประจำประเทศไทย จัดกิจกรรมบริจาคโลหิต ภาพจาก/สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป ประจำประเทศไทย
เนื่องจากสถานการณ์โรคระบาดยังไม่คลี่คลายลงอย่างเต็มที่ ความต้องการใช้เลือดเพื่อการรักษาพยาบาลยังสูงมาก ปกติจะมีประชาชนบริจาคโลหิตให้กับศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย (ศูนย์บริการโลหิตฯ) วันละ 2,200 ถุง ซึ่งเพียงพอที่จะส่งให้กับโรงพยาบาล 200 กว่าแห่ง แต่ขณะนี้ มียอดผู้บริจาคเลือดลดลงเหลือเพียงวันละ 700 ถุง ศูนย์บริการโลหิตฯ จึงขอให้ทุกภาคส่วนช่วยกันรณรงค์การบริจาคโลหิต เพื่อแก้ไขปัญหาขาดแคลนโลหิต
อ่านข่าวเพิ่มเติม: เทศกาลภาพยนตร์คนหูหนวกนานาชาติไต้หวัน ประจำปี 2564 ภายใต้หัวข้อ "มองเห็นคุณแบบไม่มีระยะห่าง" เข้าฉายวันที่ 2 ตุลาคมนี้
สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป ประจำประเทศไทย ดำเนินการตามเจตนารมณ์ของ "Taiwan Can Help" ภาพจาก/สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป ประจำประเทศไทย
นายสวี๋ เว่ย หมิง (徐蔚民) รองผู้อำนวยการใหญ่สำนักงานฯ ได้รับเชิญกล่าวปราศรัยว่า โรคระบาดทำให้จำนวนผู้บริจาคโลหิตลดน้อยลง ทำให้คลังเลือดแต่ละพื้นที่ขาดแคลน ที่ไต้หวันภาคเอกชนมักจะจัดกิจกรรมบริจาคโลหิต อัตราบริจาคเลือดของประชาชนไต้หวันติดอันดับต้นๆ ของโลก สำนักงานฯ ยินดีที่จะเห็นชาวไต้หวันในไทยร่วมบริจาคเลือดเพื่อช่วยเหลือผู้อื่นในไทยด้วย นอกจากนี้ คณะชาวไต้หวันและชาวจีนโพ้นทะเลได้บริจาคอุปกรณ์การแพทย์ เช่นเครื่องวัดความดันโลหิตและเครื่องชั่งน้ำหนักแก่ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ โดยมีนางสาวภาวิณี คุปตวินทุ รองผู้อำนวยการศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติเป็นตัวแทนรับมอบ
กิจกรรมบริจาคโลหิตครั้งนี้จัดขึ้น ณ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ขอเชิญประชาชนทุกท่านร่วมบริจาคโลหิต ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการฝ่าฟันวิกฤตขาดแคลนโลหิตไปด้วยกัน