"เอเชียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 4" เริ่ม 22 ต.ค.นี้ ประธานาธิบดีไต้หวัน ร่วมพิธีมอบธง ให้กำลังใจทัพนักกีฬา !

สำหรับ การแข่งขันกีฬาเอเชียนพาราเกมส์ ที่นครหางโจว ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 22-28 ตุลาคมนี้ ไต้หวันได้ส่งตัวแทนนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันมากสุดเป็นประวัติการณ์ โดยเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ไช่ อิงเหวิน ประธานาธิบดีไต้หวัน ได้เข้าร่วมพิธีมอบธง ให้กับทัพนักกีฬาทีมชาติไต้หวัน เพื่อให้กำลังใจและส่งเสริมให้เหล่านักกีฬาแสดงศักยภาพของตัวเองออกมาให้เต็มที่ และสร้างผลงานที่ยอดเยี่ยมต่อไป พร้อมเน้นย้ำว่า ทางรัฐบาลจะให้ความร่วมมือผลักดันนักกีฬาทุกคน และสนับสนุนงบประมาณให้กับนักกีฬาและผู้ฝึกสอนอย่างเต็มที่

อ่านข่าวเพิ่มเติม：ทางการไต้หวัน ส่งเครื่องบิน F-16 บินประกบ พร้อมยิงระเบิดควัน ต้อนรับวีรบุรุษเอเชียนเกมส์กลับบ้าน

เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา กรมพลศึกษา ได้จัดพิธีมอบธง ให้กับทัพนักกีฬาทีมชาติไต้หวัน ที่เข้าร่วมการแข่งขันในเอเชียนพาราเกมส์ ภาพ／จากกรมพลศึกษา กระทรวงศึกษาธิการไต้หวัน

ในครั้งนี้ ไต้หวันได้ส่งนักกีฬาจำนวนทั้งหมด 94 คน  เข้าร่วมการแข่งขันกีฬา 14 ชนิด ดังนี้ กรีฑา แบดมินตัน ว่ายน้ำ ยิงปืน เทเบิลเทนนิส ยูโด เทควันโด บอคเซีย ยกน้ำหนัก ยิงธนู วีลแชร์บาสเกตบอล วีลแชร์เทนนิส วีลแชร์ฟันดาบ และหมากล้อม โดยนักกีฬาเทควันโด วีลแชร์ฟันดาบ และหมากล้อม เพิ่งเข้าร่วมการแข่งขันในปีนี้เป็นปีแรก

ไช่ อิงเหวิน ประธานาธิบดีไต้หวัน เผยว่า ในปีนี้ไต้หวัน มีจำนวนนักกีฬา ชนิดกีฬาที่เข้าร่วม รวมถึงแพทย์ประจำทีม และเจ้าหน้าที่ มากสุดเป็นประวัติการณ์ โดยมีทั้งนักกีฬารุ่นเก๋า ดาวรุ่งหน้าใหม่ และนักกีฬาระดับชั้นมัธยมปลาย นอกจากนี้ นักกีฬาหลายๆ คน ยังเป็นเจ้าของรางวัล President's Education Awards อีกด้วย

อ่านข่าวเพิ่มเติม : “โครงการสานฝันสำหรับผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่และบุตรธิดา ครั้งที่ 10” เริ่มเปิดรับสมัครแล้ว！　

เซียว เสียงเหวิน(蕭翔文) นักกีฬาเทควันโด ที่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาเอเชียนพาราเกมส์เป็นครั้งแรก ภาพ／จากเฟซบุ๊ก I運動

นอกจากนี้ ไช่ อิงเหวิน ประธานาธิบดีไต้หวัน ยังได้แสดงความขอบคุณบรรดานักกีฬาที่แบ่งปันเรื่องราวชีวิตของพวกเขา ซึ่งสามารถสร้างแรงบันดาลใจและเป็นแบบอย่างให้กับผู้อื่นได้ ไม่เพียงทำให้โลกได้เห็นความแข็งแกร่งและยืดหยุ่นของชาวไต้หวันเท่านั้น แต่ยังมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนสังคมไต้หวันให้ดีขึ้น โดยทางรัฐบาลจะคอยอยู่เบื้องหลังความสำเร็จ และสนับสนุนงบประมาณให้กับนักกีฬาและผู้ฝึกสอนอย่างเต็มที่ เพื่อพัฒนาศักยภาพของนักกีฬาให้ไปสู่การแข่งขันระดับโลกต่อไป ขณะเดียวกัน ก็หวังว่าประชาชนทั่วไป จะมีความเข้าใจ และหันมาสนับสนุนการแข่งขันกีฬาสำหรับคนพิการมากยิ่งขึ้นอีกด้วย