ศูนย์บัญชาการแพร่ระบาดกลาง ประกาศเมื่อวันที่ 14 ตุลาคมว่า วันนี้มีผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่ได้รับการยืนยันใหม่ 8 ราย ทั้งหมดเดินทางเข้ามาจากต่างประเทศ และในวันนี้ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม
14 ต.ค. มีผู้ติดเชื้อเพิ่ม 8 ราย! ทั้งหมดเดินทางเข้ามาจากต่างประเทศ ภาพนำมาจาก/ศูนย์บัญชาการควบคุมโรคไต้หวัน
ศูนย์บัญชาการชี้แจงว่า ในวันนี้มีผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ค ราย แบ่งเป็น ชาย 6 ราย และ หญิง 2 ราย อายุระหว่าง 10 ถึง 40 ปี โดยเดินทางมาจากสหรัฐอเมริกา (2 ราย ได้แก่ กรณีที่ 16424 กรณีที่ 16425) ยูเครน (กรณีที่ 16426) สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (กรณีที่ 16427) ฟิลิปปินส์ (3 ราย ได้แก่ กรณีที่ 16428 กรณีที่ 16430 กรณีที่ 16431) อินโดนีเซีย (กรณีที่ 16429) วันที่เดินทางเข้าประเทศคือระหว่างวันที่ 29 กันยายนถึง 12 ตุลาคม (2021) ทั้งหมดมีรายงานการทดสอบเป็นลบภายใน 3 วันก่อนเดินทาง ส่วนรายละเอียดเพิ่มเติมตามเอกสารแนบของข่าวประชาสัมพันธ์
อ่านข่าวเพิ่มเติม: 30,000 เหรียญไต้หวันต่อคน! กองทุนช่วยเหลือสำหรับ 8 อุตสาหกรรมหลักเปิดให้ลงทะเบียนรับเงินเยียวยาแล้ว
จากสถิติของศูนย์บัญชาการแพร่ระบาดของโรค ขณะนี้ในประเทศมีผู้ติดเชื้อแล้วทั้งหมด 3,667,605 ราย (ไม่รวม 3,650,319 ราย ในจีน) ซึ่งมีผู้ติดเชื้อสะสมในไต้หวันจำนวน 16,321 ราย ประกอบด้วย ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศจำนวน 1,684 ราย ผู้ติดเชื้อในประเทศมีจำนวน 14,583 ราย โดยมีผู้ติดเชื้อจากกองเรือตุนมู่ (敦睦) 36 ราย ผู้ติดเชื้อบนเครื่องบิน 3 ราย ไม่ทราบสาเหตุอีก 1 ราย อยู่ในระหว่างการตรวจสอบแหล่งที่มาของการติดเชื้ออีก 14 ราย ยอดรวมหมายเลขว่างทั้งหมด 110 ราย ตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นมา มีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ทั้งหมด 846 ราย แบ่งเป็น เสียชีวิตจากจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศ 834 ราย ได้แก่ ในเมืองนิวไทเป 412 ราย ในเมืองไทเป 319 ราย ในเมืองจีหลง 29 ราย ในเมืองเถาหยวน 27 ราย ในเขตจางฮั่ว 15 ราย เขตซินจู๋ 13 ราย ในเมืองไถจง 5 ราย เขตเหมียวลี่ 3 ราย เขตอี๋หลานและเขตฮัวเหลียน อย่างละ 2 ราย เขตไถตง เขตอวิ๋นหลิน เมืองไถหนาน เขตหนานโถว และเมืองเกาสง อย่างละ 1 ราย อีก 12 ราย เป็นผู้เสียชีวิตจากผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากต่างประเทศ
อ่านข่าวเพิ่มเติม: เทศกาลภาพยนตร์คนหูหนวกนานาชาติไต้หวัน ประจำปี 2564 ภายใต้หัวข้อ "มองเห็นคุณแบบไม่มีระยะห่าง" เข้าฉายวันที่ 2 ตุลาคมนี้
ศูนย์บัญชาการเรียกร้องให้ประชาชนใช้มาตรการป้องกันส่วนบุคคล เช่น สุขอนามัยของมือ มารยาทในการไอ และการสวมหน้ากากอนามัย พร้อมลดการเคลื่อนไหวกิจกรรมหรือการชุมนุมที่ไม่จำเป็น หลีกเลี่ยงการเข้าและออกในสถานที่แออัด หรือบริเวณที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ อีกทั้งให้ความร่วมมืออย่างจริงจังกับมาตรการต่อต้านการแพร่ระบาดต่างๆ รวมไปถึงการปฏิบัติตามแนวทางการป้องกันของชุมชนอย่างเคร่งครัด