img
:::

สนามบินนานาชาติอู่ตะเภาเปิดอาคารผู้โดยสารใหม่ รองรับการเติบโต EECและเป็นศูนย์กลางแห่งการบินของภูมิภาค

สนามบินนานาชาติอู่ตะเภาเปิดอาคารผู้โดยสารใหม่ รองรับการเติบโต EECและเป็นศูนย์กลางแห่งการบินของภูมิภาค

เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. ที่ผ่านมา พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ลงพื้นที่จังหวัดระยอง เดินทางมาเป็นประธานในพิธีเปิดอาคารที่พักผู้โดยสารท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา ระยอง - พัทยา อาคารที่ 2 ตำบลพลา อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง โดยมีนายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง พลเรือเอก ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะประธานกรรมการบริหารกองทุนการท่าอากาศยานอู่ตะเภา พลเรือโท กฤชพล เรียงเล็กจำนงค์ ผู้อำนวยการการท่าอากาศยานอู่ตะเภา พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการให้การต้อนรับและร่วมพิธีเปิดอาคารดังกล่าว

พลเรือโท กฤชพล เรียงเล็กจำนงค์ กล่าวว่า แต่เดิมภาพลักษณ์ของสนามบินแห่งนี้เป็นสนามบินทางทหาร แต่ในปัจจุบันได้มีการเปลี่ยนแปลงเป็นสนามบินเพื่อการพัฒนาเชิงพาณิชย์ เนื่องจากในอดีตที่ผ่านมาสนามบินแห่งนี้ได้แก้ไขปัญหาวิกฤตฉุกเฉินให้ประชาชน สังคม และประเทศชาติได้ โดยเฉพาะเหตุการณ์สำคัญ ๆ ทั้งการเป็นสนามบินสำรองในเหตุการณ์บุกยึดสนามบินสุวรรณภูมิ กรณีเที่ยวบิน EK418 ลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินอู่ตะเภาเพื่อเลี่ยงสภาพอากาศที่ไม่ดี ซึ่งจะเห็นได้ว่าเมื่อเกิดวิกฤตครั้งใด สนามบินอู่ตะเภาก็สามารถรองรับการแก้ไขปัญหาได้เสมอ อีกทั้งยังใช้งานในภารกิจเที่ยวบินทางทหาร และเที่ยวบินขนส่งเพื่อมนุษยธรรมในเหตุการณ์ต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งรัฐบาลได้เห็นความสำคัญและศักยภาพของสนามบินอู่ตะเภา จึงได้อนุมัติกองทุนให้สนามบินอู่ตะเภาโดยการท่าอากาศยานอู่ตะเภาดำเนินการบริหารจัดการเชิงพาณิชย์ เพื่อให้สอดรับกับการพัฒนาพื้นที่สนามบินแห่งใหม่ในโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกหรือ EEC ในพื้นที่กว่า 6,500 ไร่ รองรับการเป็นสนามบินพาณิชย์แห่งที่ 3 ของประเทศไทยและเป็นส่วนหนึ่งของ Aviation Hub หรือศูนย์กลางแห่งการบินหลักของภูมิภาคนี้อีกด้วย

ด้าน พลเรือเอก ลือชัย รุดดิษฐ์ ได้กล่าวถึงการบริหารสนามบินนี้ว่า สนามบินอู่ตะเภาได้เปิดให้บริการในเชิงพาณิชย์มากว่า 30 ปี โดยเริมดำเนินการตั้งแต่ปี พ.ศ.2532 ปัจจุบันได้มีจำนวนผู้โดยสารมากกว่า 2 ล้านคนต่อปี มีเที่ยวบินกว่า 15,000 เที่ยวบินต่อปี จึงเป็นสาเหตุให้อากาคารที่พักผู้โดยสารแห่งที่ 1 เกิดความแออัด ไม่สามารถรองรับการบริการได้อย่างเต็มศักยภาพ จึงได้ก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารแห่งที่ 2 ขึ้น ซึ่งเปิดใช้อาคารดังกล่าวมาตั้งแต่เดือนมี.ค. 2562 เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจการบินทั้งเที่ยวภายในและต่างประเทศ อีกทั้งเป็นการเชื่อมโยงการเดินทางสู่พื้นที่ภาคตะวันออกและยังสนับสนุนการยกระดับการพัฒนาพื้นที่ของภาคตะวันออกให้เป็นพื้นที่ทางเศรษฐกิจชั้นนำของภูมิภาค ตามโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกหรือ EEC โดยอาคารที่พักผู้โดยสารแห่งที่ 2 จะสามารถรองรับผู้โดยสารได้ประมาณ 3 - 5 ล้านคนต่อปี และจะสามารถให้บริการได้เต็มศักยภาพจนถึง พ.ศ.2570

ข้อมูลข่าวจาก กรมประชาสัมพันธ์

นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดอาคารผู้โดยสารใหม่ที่สนามบินนานาชาติอู่ตะเภา (ภาพจาก กรมประชาสัมพันธ์)

ข่าวเด่นประเด็นร้อน

:::
ข่าวล่าสุด 最新消息icon
回到頁首icon
Loading