การป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นั้นไม่มีพรมแดนมาขวางกั้น เมื่อวันที่ 8 มี.ค.ที่ผ่านมา สำนักพัฒนาเศรษฐกิจ รัฐบาลนครไถจง ได้เดินทางไปยังอาเซียนสแควร์ซึ่งเป็นแหล่งรวมตัวของแรงงานข้ามชาติเพื่อแนะนำให้ผู้ประกอบการจัดหาบุคลากรเพื่อทำการวัดอุณหภูมิร่างกายของผู้มาจับจ่ายและใช้บริการที่บริเวณทางเข้าออก และประชาสัมพันธ์การป้องกันการแพร่ระบาดของโรคเป็นภาษาเวียดนามและอินโดนิเซีย โดยมีการประชาสัมพันธ์วิธีการสวมหน้ากากอนามัยที่ถูกต้อง 4 ขั้นตอน คือ แกะซอง สวมใส่ บีบตรงสันจมูกให้กระชับ และปรับให้ครอบคลุมจากสันจมูกถึงคาง ซึ่งเป็นเสริมสร้างมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคและปกป้องสุขภาพของแรงงานข้ามชาติ
สำนักพัฒนาเศรษฐกิจเป็นหน่วยงานที่มีอำนาจดูแลสถานประกอบการบันเทิงคาราโอเกะและอุตสาหกรรมไนท์คลับในนครไทจง สำหรับผู้ประกอบการสถานบันเทิงในอาเซียนสแควร์ส่วนใหญ่เป็นชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งทุก ๆ วันหยุดจะดึงดูดแรงงานข้ามชาติจำนวนมากจากมณฑลเมืองต่าง ๆ ในภาคกลางของไต้หวันให้เดินทางมาใช้บริการ เพื่อไม่ให้เกิดอุปสรรคด้านภาษาจนทำให้เกิดความล่าช้าในการส่งข้อมูลการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไปยังแรงงานข้ามชาติ เมื่อวันที่ 8 มี.ค. ที่ผ่านมา นายจัง เฟิงหยวน (張峯源) ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาเศรษฐกิจ นายหลี่ อี้อัน (李逸安) รองอำนวยการสำนักพัฒนาเศรษฐกิจ และนายซุ่น ไท้คัง (孫太康) ผู้กำกับการสถานีตำรวจที่ 1 นครไถจง ได้เดินทางไปยังสถานประกอบการเพื่อความบันเทิง 3 แห่ง ในอาเซียนสแควร์เพื่อเยี่ยมเยือนและทำการประชาสัมพันธ์การป้องกันการแพร่ระบาดของโรค
จากข้อมูลของสำนักพัฒนาเศรษฐกิจพบว่า การแพร่ระบาดของโรคส่งผลให้ผู้บริโภคในอาเซียนสแควร์มีจำนวนลดลง แต่เพื่อไม่ให้เกิดช่องโหว่ของการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค เมื่อวันที่ 8 มี.ค. ที่ผ่านมา ได้การเข้าไปประชาสัมพันธ์ในร้านคาราโอเกะพร้อมป้ายข้อความประชาสัมพันธ์เป็นภาษาจีนเวียดนาม และจีนอินโดนิเซียด้วย โดยสอนวิธีการใส่หน้ากากอนามัยที่ถูกต้องและขอให้ผู้ประกอบการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายของผู้มาใช้บริการด้วย
สำนักพัฒนาเศรษฐกิจกล่าวว่า สถานบันเทิงส่วนใหญ่เป็นสถานที่คับแคบและมีผูค้นอยู่กันอย่างใกล้ชิด ดังนั้นตั้งแต่เดือนม.ค.ที่ผ่านมา ได้ทำการประชาสัมพันธ์ที่สถานบันเทิงและร้านเกม 500 กว่าแห่ง ให้พนักงานใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ และวัดอุณหภูมิร่างกายอยู่เป็นประจำ เป็นต้น นอกจากนี้ยังได้ร่วมมือกับสำนักแรงงานออกเดินประชาสัมพันธ์การป้องกันการแพร่ระบาดของโรคที่บริเวณสถานที่รวมตัวของแรงงานข้ามชาติ และสถานที่ขนส่งมวลชนที่มีผู้คนเป็นจำนวนมาก เช่น บริเวณรอบๆ สถานีรถไฟไถจง