img
:::

ให้กำลังใจด้วยความรัก การเติบโตของลูกไม่มีขีดจำกัด! 3 เทคนิคสร้างสะพานแห่งกำลังใจระหว่างพ่อแม่และลูก

เด็ก ๆ มักจะมีพัฒนาการที่ดีกว่าเมื่อพ่อแม่ให้ความรักและกำลังใจในเชิงบวก (ภาพ / จาก Pixabay)
เด็ก ๆ มักจะมีพัฒนาการที่ดีกว่าเมื่อพ่อแม่ให้ความรักและกำลังใจในเชิงบวก (ภาพ / จาก Pixabay)

ฤดูร้อนเป็นช่วงเวลาทองของการใช้เวลาร่วมกันระหว่างพ่อแม่และลูก หลายคนจึงสนใจว่า จะเพิ่มความสัมพันธ์นี้อย่างมีประสิทธิภาพได้อย่างไร กำลังใจเป็นกุญแจสำคัญในการสื่อสาร ซึ่งไม่เพียงช่วยเพิ่มความมั่นใจให้เด็ก แต่ยังเสริมความยืดหยุ่นในการเผชิญความล้มเหลว กำลังใจเชิงบวกช่วยให้เด็กพัฒนาอารมณ์ และเพิ่มความกลมเกลียวและความสุขในครอบครัว

นักจิตวิทยาคลินิก Yeh Chieh-hsin ชี้ว่ากำลังใจไม่เพียงส่งเสริมการแลกเปลี่ยนอารมณ์ระหว่างพ่อแม่และลูก แต่ยังช่วยให้เด็กยอมรับการกระทำของตนเองได้อย่างเชิงบวก เมื่อเด็กได้รับการยอมรับจากพ่อแม่ เด็กจะพยายามมากขึ้นและมีความสามารถในการแก้ปัญหาเมื่อเผชิญกับความยากลำบาก Yeh เน้นว่า "จังหวะการให้กำลังใจ" มีความสำคัญมาก ไม่ว่าจะเป็นเมื่อเด็กประสบปัญหาหรือแสดงความสามารถ ควรให้กำลังใจในเวลาที่เหมาะสมเพื่อช่วยให้เด็กมีแรงจูงใจภายในที่มั่นคงและเชื่อในตนเอง

3 เทคนิคการให้กำลังใจ: ให้เด็กรู้สึกถึงการยอมรับและการสนับสนุน

การให้กำลังใจที่มีประสิทธิภาพต้องการเทคนิค Yeh แนะนำ 3 วิธีง่ายๆ ที่ใช้ได้จริง:

  1. อธิบายพฤติกรรมของเด็ก: ระบุอย่างชัดเจนว่าเด็กทำอะไรได้ดี เช่น “แม่เห็นหนูเก็บของเล่นเองวันนี้ เก่งมาก!” วิธีนี้ทำให้เด็กเข้าใจว่าทำไมถึงได้รับการยอมรับ
  2. เริ่มต้นจากความรู้สึกของเด็ก: แสดงความเข้าใจและสนับสนุนอารมณ์ของพวกเขา เช่น “หนูรู้สึกท้อแท้เพราะโจทย์ข้อนี้ยากเกินไป แม่เข้าใจความรู้สึกนี้นะ” วิธีนี้ทำให้เด็กตระหนักว่าพ่อแม่อยู่เคียงข้างและพร้อมเผชิญปัญหาร่วมกัน
  3. เน้นความพยายามและความก้าวหน้าของเด็ก: แม้ผลลัพธ์จะไม่เป็นไปตามคาด ควรยอมรับความพยายามของเด็กในระหว่างกระบวนการ เช่น “แม้หนูยังจับหลักการนี้ไม่หมด แต่หนูพยายามเรียนรู้ต่อไป ซึ่งน่าชื่นชมมาก”ผู้ปกครองสามารถแสดงความไว้วางใจและความห่วงใยให้ลูกเห็นได้ผ่านสีหน้าที่จริงใจ น้ำเสียง และภาษากาย เช่น การกอด (ภาพ / จาก Pixabay)

4 ข้อควรระวัง: สร้างการสื่อสารที่ดีระหว่างพ่อแม่และลูกด้วยความจริงใจและความไว้วางใจ

ในระหว่างการให้กำลังใจ ควรระวังบางประการ อย่างแรก ควรเน้นที่ความพยายามของเด็กมากกว่าผลลัพธ์เพื่อหลีกเลี่ยงความกดดันจากการคาดหวังที่มากเกินไป อย่างที่สอง ควรแสดงกำลังใจด้วยความจริงใจ ไม่ว่าจะเป็นน้ำเสียง สีหน้า หรือภาษากาย ควรทำให้เด็กสัมผัสถึงความเอาใจใส่และความไว้วางใจจากพ่อแม่

นอกจากนี้ ควรสอนให้เด็กเรียนรู้การให้กำลังใจตัวเองเพื่อช่วยให้แข็งแกร่งและมองโลกในแง่บวกมากขึ้นเมื่อเผชิญกับความท้าทาย สุดท้าย พ่อแม่ก็ควรให้กำลังใจตนเองในระหว่างการเลี้ยงดูลูก เพื่อรักษาทัศนคติเชิงบวกและเติบโตไปพร้อมกับลูก

ข่าวเด่นประเด็นร้อน

:::
回到頁首icon
Loading