คุณกรนตอนนอนหรือไม่? คุณรู้สึกเหนื่อยล้า มีปัญหาในการมีสมาธิในระหว่างวัน หรือรู้สึกง่วงนอนง่าย ๆ ทั้งที่นอนเพียงพอหรือไม่? ปัญหาเหล่านี้อาจเกิดจากภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ภาวะหยุดหายใจขณะหลับมีความเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับโรคหัวใจและหลอดเลือด เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และไขมันในเลือดสูง หากปล่อยไว้โดยไม่รักษา อาจนำไปสู่การควบคุมโรคเรื้อรังที่ไม่ดี ล่าช้าในการรักษา และอาจทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนหลายอย่าง
ภาวะขาดออกซิเจนที่มักเกิดร่วมกับภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (ภาพโดย Heho Health)
การวิจัยแสดงให้เห็นว่าโอกาสในการเป็นเบาหวานในผู้ป่วยหยุดหายใจขณะหลับนั้นสูงกว่าผู้ที่ไม่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับมากกว่าสองเท่า นอกจากนี้ ผู้ป่วยมากกว่า 80% ที่ควบคุมความดันโลหิตไม่ดี ยังได้รับการวินิจฉัยว่ามีภาวะหยุดหายใจขณะหลับอีกด้วย ภาวะหยุดหายใจขณะหลับทำให้เกิดการหยุดชะงักของการนอนหลับซ้ำ ๆ และภาวะขาดออกซิเจนเป็นช่วง ๆ ซึ่งนำไปสู่การอักเสบในร่างกาย เมื่อหยุดหายใจ ทำให้หลอดเลือดหดตัว อัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มขึ้น และความดันโลหิตพุ่งสูงขึ้น
นอกจากโรคเรื้อรังทั่วไปแล้ว รายงานการวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Neurogastroenterology โดยสถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (NIH) ระบุว่า ประมาณ 60% ของผู้ป่วยภาวะหยุดหายใจขณะหลับก็มีภาวะกรดไหลย้อนร่วมด้วย เมื่อทางเดินหายใจอุดตันในผู้ป่วยหยุดหายใจขณะหลับ ช่องอกจะมีแรงดันลบ มักจะกระตุ้นให้กรดไหลย้อนขึ้นไปที่ลำคอ อาการกรดไหลย้อนและภาวะหยุดหายใจขณะหลับแบบอุดกั้นสามารถส่งเสริมกันและกัน เพิ่มความรุนแรง
แพทย์ชี้ว่าหากผู้ป่วยมีภาวะกรดไหลย้อนหรือกรดไหลย้อนขึ้นคอ อาจนำไปสู่การสะท้อนกลับของเส้นประสาทเวกัสที่ทำให้กล้ามเนื้อทางเดินหายใจส่วนบนคลายตัว เยื่อบุจมูกบวม และอุดกั้น ทำให้ภาวะหยุดหายใจขณะหลับแย่ลง ทางเดินหายใจส่วนบนของมนุษย์ก็เหมือนประตูที่ต้องเปิดเพื่อหายใจ ยกเว้นเมื่อดื่มน้ำ แต่ผู้ป่วยหยุดหายใจขณะหลับหรือกรนอย่างรุนแรงมักจะกรนและอุดกั้นมากกว่าสองถึงสามพันครั้งต่อคืน ทางเดินหายใจส่วนบนเปิดและปิดตลอดเวลา สร้างความเสียหายตามกาลเวลา
หากคุณมีอาการหยุดหายใจขณะหลับและกรดไหลย้อน ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารภายในสองถึงสามชั่วโมงก่อนนอน (ภาพโดย Heho Health)
“การสั่นสะเทือนและการเสียดสีซ้ำ ๆ ของเยื่อบุทางเดินหายใจส่วนบนทำให้เกิดความเสียหาย นำไปสู่ปัญหากรดไหลย้อนที่รุนแรงขึ้น และกรดไหลย้อนกลับทำให้ภาวะหยุดหายใจขณะหลับแย่ลง สร้างวงจรอุบาทว์ นอกจากนี้ การออกกำลังกายเป็นประจำเป็นนิสัยสำคัญในการปรับปรุงสภาพจมูกและกรดไหลย้อน ถ้าคนนอนไม่หลับก็จะไม่อยากทำกิจกรรม และการไม่ทำกิจกรรมจะทำให้สุขภาพร่างกายแย่ลง”
แพทย์แนะนำว่าหากคุณมีอาการหยุดหายใจขณะหลับและกรดไหลย้อน ให้หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารภายในสองถึงสามชั่วโมงก่อนนอน สร้างกิจวัตรการออกกำลังกายเป็นประจำ รักษาน้ำหนักให้เหมาะสม และฝึกการออกกำลังกายช่องปากเพื่อเสริมสร้างลิ้นและกล้ามเนื้อแก้ม ซึ่งจะช่วยบรรเทาอาการได้
