ไทยพบผู้ป่วยจากโรคโควิด-19 เพิ่ม 188 ราย ส่งผลให้ยอดผู้ป่วยรวมเพิ่มเป็น 599 ราย

นพ. ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกกระทรวงสาธารณสุขของไทยกล่าวในการแถลงสถานการณ์โรคโควิด-19 เมื่อวานนี้ (22 มี.ค.) พบผู้ป่วยยืนยันรายใหม่เพิ่ม 188 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 599 ราย โดยมาจากกลุ่มมีประวัติสัมผัสผู้ป่วยก่อนหน้านี้ จำนวน 65 ราย ประกอบด้วย จากกลุ่มผู้ที่ได้รับเชื้อจากสนามมวย พบเพิ่ม 21 ราย สถานบันเทิง 5 ราย ผู้เข้าร่วมพิธีทางศาสนาที่ประเทศมาเลเซีย 2 ราย และกลุ่มที่สัมผัสผู้ป่วยที่รายงานมาแล้ว 37 ราย เป็นต้น 

ส่วนกลุ่มที่ 2 เป็นผู้ป่วยรายใหม่ 15 ราย ได้แก่ กลุ่มผู้เดินทางจากต่างประเทศ 8 ราย จำนวนนี้มีหลายรายที่มีประวัติเดินทางกลับจากเที่ยวผับปอยเปตที่ประเทศกัมพูชา และกลุ่มที่ทำงานหรืออาศัยในที่แออัดต้องใกล้ชิดคนจำนวนมาก 7 ราย 

ส่วนกลุ่มที่ 3 ผู้ที่ได้รับผลยืนยันทางห้องปฏิบัติการพบเชื้อ แต่อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค 108 ราย สำหรับจำนวนผู้ป่วยที่ยืนยันกลับบ้านได้แล้วมี 45 ราย ยังคงรักษา 533 ราย ขณะที่ยอดผู้ป่วยหนักมี 7 ราย จากสถาบันบําราศนราดูร โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โรงพยาบาลศิริราช และโรงพยาบาลเอกชน ทุกรายใส่เครื่องช่วยหายใจและเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ส่วนผู้เสียชีวิตยังคงอยู่ที่ 1 ราย ส่วนกรณีการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ขอความร่วมมือหากไม่ใช่กลุ่มเสี่ยงหรือผู้ที่ยังไม่มีอาการโรคระบบทางเดินหายใจ ขอให้กักตัวเองเฝ้าสังเกตอาการอยู่ในที่พักอาศัยและปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข ทั้งนี้เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจหาเชื้อในผู้ที่มีความจำเป็นต้องได้รับการตรวจก่อน

โฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวต่อไปว่า กรณีที่วานนี้กรุงเทพมหานครออกประกาศปิดสถานบริการหลายแห่ง ส่งผลให้ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนา จึงขอความร่วมมือประชาชนอย่าเคลื่อนย้าย หรือเดินทางกลับภูมิลำเนาเด็ดขาด เนื่องจากขณะนี้พบผู้ป่วยในกรุงเทพมหานครเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว หากเดินทางกลับอาจนำเชื้อโรคไปแพร่ให้คนในต่างจังหวัด หรือคนใกล้ชิดในครอบครัว ขณะเดียวกันได้ส่งหนังสือด่วนไปถึงผู้ว่าราชการจังหวัด ขอความร่วมมือคัดกรองผู้เดินทางทุกคน ในส่วนของจังหวัดขอให้จัดทำแผนควบคุมโรคระดับอำเภอ/หมู่บ้าน จัดทีมค้นหา เฝ้าระวัง เพื่อสร้างความเข้าใจและแจ้งให้ผู้ที่เดินทางกลับจากกรุงเทพมหานครและปริมณฑลกักตนเอง 14 วัน พร้อมปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด หลีกเลี่ยงการพูดคุยกับผู้สูงอายุและผู้ป่วยเรื้อรัง 

นอกจากนี้ ได้ส่งหนังสือด่วนถึงผู้ว่าราชการรถไฟแห่งประเทศไทย อธิบดีกรมขนส่งทางบก ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและท่าอากาศยานดอนเมือง เพื่อจัดมาตรการควบคุมโรค คัดกรองผู้โดยสารที่จะเดินทางออกจากกรุงเทพมหานครและปริมณฑล พร้อมทำความสะอาดรถโดยสารทั้งก่อนและหลังการเดินทาง ลดความแออัดเว้นระยะห่างของที่นั่งผู้โดยสาร เป็นต้น

ข้อมูลข่าวจาก กรมประชาสัมพันธ์