26 เม.ย. ไต้หวันไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ ศูนย์บัญชาการกลางป้องกันโรคติดต่อไต้หวันเตือนหยุดยาววันแรงงานต้องรักษาระยะห่างทางสังคม

ศูนย์บัญชาการกลางป้องกันโรคติดต่อไต้หวันประกาศเมื่อวานนี้ (26 เม.ย.) ว่า ในวันนี้ไต้หวันมีผู้ป่วยโรคปอดอักเสบจากไวรัสวิด-19 ที่ได้รับการยืนยันรายใหม่จำนวน 0 คน

ศูนย์บัญชาการกลางป้องกันโรคติดต่อไต้หวันกล่าวว่า เมื่อวานนี้ (25 เม.ย.) มีกรณีผู้ที่เกี่ยวข้องกับไวรัสโควิด-19 ใหม่จำนวน 620 ราย และจนถึงปัจจุบันมียอดรวมทั้งหมด 60,459 ราย (หักออกไป 58,531 ราย) โดย 429 คน เป็นผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งแบ่งเป็นผู้ที่ติดเชื้อมาจากต่างประเทศ 343 ราย ติดเชื้อในประเทศ 55 ราย ส่วนอีก 31 ราย เป็นทหารเรือที่ติดเชื้อบนเรือ สำหรับผู้เสียชีวิตมีจำนวนทั้งสิ้น 6 ราย ส่วนอีก 281 รายได้รับการปล่อยตัวจากการกักกันโรค ส่วนที่เหลืออยู่ในระหว่างการกักกันโรคแยกที่โรงพยาบาล

ศูนย์บัญชาการกลางป้องกันโรคติดต่อไต้หวันเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 20-21 เม.ย.ที่มีชาวไต้หวันเดินทางกลับจากมณฑลหู๋เป่ย ประเทศจีนจำนวน 460 คน ยังคงได้รับการตรวจสอบอย่างใกล้ชิดโดยสำนักงานกักกันโรคส่วนกลาง

ศูนย์บัญชาการกลางป้องกันโรคติดต่อไต้หวันเผยว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ได้รับการยืนยันทั่วโลกมีจำนวนสะสมทั้งสิ้น 2,927,523 ราย กระจายอยู่ใน 184 ประเทศ / ภูมิภาค โดยจำนวนผู้ป่วยกว่า 950,245 รายอยู่ในสหรัฐอเมริกา, 223,759 รายในสเปน, 195,351 รายในอิตาลี, 190,614 รายในฝรั่งเศสและอีก 152,438 รายในเยอรมนี สำหรับผู้เสียชีวิตทั่วโลกมีจำนวนทั้งสิ้น 202,107 ราย โดยประเทศสหรัฐอเมริกามีผู้เสียชีวิตมากที่สุด 54,159 ราย ตามมาด้วย 26,384 รายในอิตาลี 22,902 รายในสเปน 22,614 รายในฝรั่งเศสและ 20,319 รายในสหราชอาณาจักร

ศูนย์บัญชาการกลางป้องกันโรคติดต่อไต้หวันเตือนประชาชนว่า วันหยุดยาวเนื่องในวันแรงงานที่กำลังจะถึงขอให้ประชาชนอย่าลืมรักษาระยะห่างทางสังคม รวมทั้งรักษาสุขอนามัยของมือและมารยาทในการไอด้วย เมื่อคุณเดินทางกลับมาจากต่างประเทศหากรู้สึกไม่สบายเช่น มีไข้หรือไอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่กักกันโรคที่สนามบินหรือท่าเรือและต้องให้ความร่วมมือกับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคด้วย หากคุณกลับมาจากต่างประเทศและอยู่ในระหว่างการกักกันโรค 14 วัน และมีอาการไม่สบาย ขอให้รีบติดต่อกับหน่วยงานสาธารณสุขหรือศูนย์ดูแลของแต่ล่ะมณฑลเมือง และให้ปฎิบัติตามคำแนะนำในการไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด แต่ห้ามใช้ระบบขนส่งมวลชนเด็ดขาด เมื่อพบแพทย์ต้องแจ้งประวัติการเดินทาง อาชีพ ผู้ที่ใกล้ชิด เพื่อที่จะได้รับการวินิจฉัยโรคและทำการแจ้งเตือนได้ทันเวลา