คำถาม-คำตอบสำหรับเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์: หมายเลขประจำตัวประชาชนของชาวต่างชาติ

Q: หลังจากเปลี่ยนเป็นหมายเลขประจำตัวรูปแบบใหม่ เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ต้องทำบัตร IC ใหม่หรือไม่? มีค่าใช้จ่ายหรือไม่?
A:
1. หลังจากเปลี่ยนเป็นหมายเลขประจำตัวรูปแบบใหม่ แนะนำให้ทำการเปลี่ยนแปลงหรือขอรับใบรับรองเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ใหม่ และทำบัตร IC สำหรับเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ใหม่

2. การเปลี่ยนหมายเลขประจำตัวรูปแบบใหม่เป็นมาตรการที่กระทรวงมหาดไทยออกแบบมาเพื่อสนับสนุนชาวต่างชาติ สำหรับการเปลี่ยนบัตร IC ที่ยังคงใช้งานได้ จะไม่มีค่าใช้จ่าย อย่างไรก็ตาม หากมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลอื่นๆ (เช่น การเปลี่ยนชื่อ) ต้องชำระค่าธรรมเนียมตามมาตรฐานการเรียกเก็บของใบรับรองทางการแพทย์

3. หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับบัตร IC ของเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ กรุณาติดต่อที่หมายเลข 0800-364-422 หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ (https://hca.nat.gov.tw/)

ศูนย์บริหารจัดการใบรับรองทางการแพทย์ (รูปภาพจากเว็บไซต์ศูนย์บริหารจัดการใบรับรองทางการแพทย์)

Q: หลังจากเปลี่ยนเป็นหมายเลขประจำตัวชาวต่างชาติใหม่ ฉันต้องเปลี่ยนข้อมูลในใบรับรองทางการแพทย์ด้วยหรือไม่ หรือต้องทำการเปลี่ยนแปลงด้วยตนเอง? หากทำการเปลี่ยนแปลงเองจะมีค่าใช้จ่ายหรือไม่ และสามารถสอบถามใครได้บ้าง?
A:
1. หลังจากเปลี่ยนหมายเลขประจำตัวชาวต่างชาติใหม่ ถึงแม้ว่าเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงานภาครัฐ แต่ใบรับรองทางการแพทย์ยังเป็นเอกสารแบบกระดาษ แนะนำให้ทำการเปลี่ยนแปลงหรือขอรับใบรับรองใหม่เพื่อให้ข้อมูลตรงกัน

2. การดำเนินการหลังจากเปลี่ยนหมายเลขประจำตัวใหม่นั้น สามารถทำได้ตามขั้นตอนดังต่อไปนี้:
o(1)หากทำการเปลี่ยนแปลงใบรับรอง กรุณาจัดเตรียมเอกสารใบรับรองฉบับจริง สำเนาบัตรประจำตัวใหม่ และใบคำขอเปลี่ยนแปลง โดยไม่ต้องแนบใบรับรองผลสอบ ส่งทางไปรษณีย์หรือด้วยตนเอง ไม่มีค่าใช้จ่าย
o(2)หากบัตรสูญหายหรือชำรุด ค่าใช้จ่ายในการออกบัตรใหม่อยู่ที่ 1,500 ดอลลาร์ไต้หวัน
o(3)บบฟอร์มคำขอเปลี่ยนแปลงหรือออกใหม่สามารถดาวน์โหลดได้ที่เว็บไซต์ของกระทรวงสาธารณสุข ภายใต้หัวข้อ "บริการอำนวยความสะดวก" ในส่วน "บริการออนไลน์สำหรับประชาชน"
Q: ฉันเป็นชาวต่างชาติ หลังจากเปลี่ยนหมายเลขประจำตัวชาวต่างชาติใหม่ ฉันต้องขอใบรับรองสำหรับผู้ให้บริการดูแลผู้สูงอายุใหม่หรือไม่? และมีค่าใช้จ่ายหรือไม่?
A:
1. สำหรับผู้ที่มีบัตรดูแลผู้สูงอายุ เมื่อเปลี่ยนหมายเลขประจำตัวใหม่ จำเป็นต้องทำบัตรใหม่ แต่จะไม่มีค่าใช้จ่ายหากไม่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนข้อมูลอื่นๆ

2. หากมีข้อสงสัยสามารถติดต่อสายด่วน 1966 หรือหน่วยงานในท้องถิ่นของคุณ