เทศกาลตรุษจีนกำลังจะมาถึงในไม่ช้า หลายคนได้เริ่มวางแผนกิจกรรมในช่วงวันหยุดยาวตรุษจีน จากการพยากรอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยาไต้หวันกล่าวว่า ในสัปดาห์นี้มีมวลอากาศเย็น 2 ระลอกพัดลงมาสู่ไต้หวัน โดยระลอกแรกจะส่งผลกระทบต่ออุณหภูมิในไต้หวันจนถึงเช้าวันพุธนี้ (วันที่ 15) และในช่วงวันศุกร์ และเสาร์ (วันที่ 17-18) จะมีมวลอากาศเย็นพัดมาสู่ไต้หวันอีกระลอก นอกจากสภาพอากาศในภาคเหนือของไต้หวันจะเย็นลง พื้นที่อื่นก็จะมีอากาศหนาวเย็นในตอนเช้าและเย็น นายหวัง อิงเหว่ย (王英偉) ผู้อำนวยการสำนักบริหารการส่งเสริมสุขภาพของไต้หวันเรียกร้องให้ประชาชนเมื่อออกไปซื้อของสำหรับปีใหม่หรือทำกิจกรรมกลางแจ้ง ควรสวมเสื้อผ้าที่อบอุ่น เอาใจใส่บริเวณศีรษะ คอ แขนและขาให้อบอุ่นอุ่น เช่น สวมหมวก หน้ากากอนามัย ผ้าพันคอ ถุงมือ ถุงเท้า และรองเท้ากันลื่น สวมใส่เสื้อผ้าหลายๆ ชั้น ซึ่งสามารถถอดออกได้ง่ายเมื่ออุณหภูมิมีการเปลี่ยนแปลง ส่วนชั้นนอกสุดสามารถเลือกแจ็คเก็ตที่มีฟังก์ชั่นกันความชื้นกันลมและง่ายต่อการสวมใส่และถอด รวมทั้งเหมาะสมต่อการทำกิจกรรมด้วย
นอกจากนี้หลายคนเริ่มวางแผนทำความสะอาดบ้านเรือนที่อยู่อาศัย จากการสำรวจของสำนักบริหารการส่งเสริมสุขภาพพบว่า สถานที่ในร่มสามอันดับแรกที่ประชาชนเกิดการบาดเจ็บคือ: 1 ห้องนอน 2. ห้องนั่งเล่น 3. ห้องน้ำ ซึ่งการทำความสะอาดนั้นจะต้องมีการขัดถูปีนขึ้นและลง จึงขอแนะนำให้สวมถุงมือพลาสติกทำความสะอาดห้องน้ำและห้องครัว รวมทั้งสวมรองเท้ากันลื่นด้วย ในขณะที่ทำความสะอาด หากต้องการย้ายของหนักก็ควรเรียกสมาชิกในครอบครัวมาช่วย ให้ความสนใจเมื่อต้องใช้บันไดและเก้าอี้ หากต้องการล้างสิ่งของก็ควรใส่ใจกับอุณหภูมิของน้ำ หลีกเลี่ยงการใช้น้ำเย็นซึ่งอาจทำให้เกิดการหดตัวของหลอดเลือดส่วนปลายซึ่งมีผลต่อการไหลเวียนของเลือดโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวาน
เมื่อใดก็ตามที่สภาพอากาศหนาวเย็นลง จำนวนผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจและหลอดเลือดที่เดินทางไปพบแพทย์ก้จะเพิ่มขึ้น จึงขอเตือนผู้ป่วยความดันโลหิตสูง น้ำตาลในเลือดสูง ไขมันในเลือดสูง และโรคหลอดเลือดหัวใจ ให้ใช้ยาตามที่แพทย์สั่งอย่างสม่ำเสมอและตรวจความดันโลหิตเป็นประจำด้วย ซึ่งการใช้ยาตามแพทย์สั่งอย่างสม่ำเสมอจะทำให้เกิดประสิทธิภาพในการควบคุมโรค และจำเป็นต้องมีการตรวจสอบความดันโลหิตประจำวันเพื่อลดผลกระทบของสภาพอากาศหนาวเย็น สำหรับผู้ที่มีประวัติโรคหัวใจจะต้องพกบัตรเวชระเบียนและยาฉุกเฉินทุกครั้งเพื่อใช้ในยามฉุกเฉิน หากคุณมีอาการแน่นหน้าอก เจ็บหน้าอก ปวดแขน หายใจลำบาก คลื่นไส้ อ่อนเพลีย เวียนศีรษะ หรือมีอาการผิดปกติ เช่นโรคหอบหืดและปวดหลังในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน ซึ่งอาจมีอาการหัวใจวายเฉียบพลันจึงควรรีบไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด
