ทำกิจกรรมกลางแจ้งสัปดาห์ล่ะ 11 ชั่วโมง ช่วยสร้างเสริมสุขภาพที่ดีให้กับสายตาของนักเรียนได้

ในช่วงที่ผ่านมา หลายโรงเรียนได้ทะยอยเปิดเทอมแล้ว สำนักงานบริหารการส่งเสริมสุขภาพไต้หวันสนับสนุนให้นักเรียนใช้เวลาทำกิจกรรมกลางแจ้งหลังเลิกเรียนให้มากๆ และแนะนำให้ผู้ปกครองเพิ่มการทำกิจกรรมกลางแจ้งในวันหยุด ซึ่งนอกจากจะเป็นการส่งเสริมสมรรถภาพทางกายและสุขภาพทางสายตาแล้ว ยังสามารถลดความเสี่ยงของการติดเชื้อแบบกลุ่มจากการการใกล้ชิดกันระหว่างบุคคลด้วย ให้พวกเค้าอยู่ห่างจากการคุกคามของการระบาดของโรค

มีการค้นพบว่า การเพิ่มการทำกิจกรรมกลางแจ้งจะช่วยปกป้องสุขภาพการมองเห็นได้ การวิจัยของสำนักงานบริหารการส่งเสริมสุขภาพพบว่า การทำกิจกรรมกลางแจ้งในแต่ละสัปดาห์อย่างน้อย 11 ชั่วโมง สามารถลดอุบัติการณ์และเพิ่มขึ้นของสายตาสั้น และในระหว่างการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ก็ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังสถานที่ในร่มที่มีผู้คนหนาแน่น ให้เลือกกิจกรรมกลางแจ้งที่มีอากาศถ่ายเทได้ดี สำนักงานบริหารการส่งเสริมสุขภาพได้รวบรวมเส้นทางเดินป่าและสถานที่ทำกิจกรรมกลางแจ้งในแต่ละมณฑลเมืองในไต้หวันบนเว็บไซต์ (https://www.hpa.gov.tw/Pages/List.aspx?nodeid=332) เพื่อเป็นข้อมูลให้ประชาชนวางแผนการทำกิจกรรมกลางแจ้ง ซึ่งเป็นการปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกในครอบครัว ลดการใช้สายตาจากการใช้คอมพิวเตอร์ การเล่นโทรศัพท์มือถือ หรือการเล่นเกม เป็นการเสริมสร้างสุขภาพสายตาและสุขภาพร่างกายที่ดีด้วย

นายหวัง อิงเหว่ย (王英偉) ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารการส่งเสริมสุขภาพขอให้ผู้ปกครองและครูสร้างรูปแบบการใช้ชีวิตที่มีสุขภาพดี ปลูกฝังให้เด็กเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ส่งเสริมโรงเรียนและโรงเรียนอนุบาลให้ใช้เวลากลางแจ้งหลังเลิกเรียน และเพิ่มการออกแบบหลักสูตรการเรียนกลางแจ้ง โดยกิจกรรมกลางแจ้งนอกจะจะเพิ่มความชุ่มชี้นให้กับระบบทางเดินหายใจ จะต้องรักษาสุขอนามัยของระบบทางเดินหายใจด้วย โดยเฉพาะถ้ามีอาการไอ และสิ่งที่สำคัญคือการล้างมือ 5 ขั้นตอน（ให้มือเปียกน้ำ ถูมือด้วยสบู่ ล้างสบู่ด้วยน้ำ รินน้ำล้างก๊อก และเช็ดมือให้แห้ง）นอกจากนี้ยังต้องล้างมือให้ครบทั้ง 7 ส่วนด้วย ได้แก่ นิ้วมือ ซอกนิ้ว ฝ่ามือ หลังมือ ปลายนิ้ว ซอกเล็บ และข้อมือที่มักจะละเลยในการล้างได้ง่าย เพื่อปกป้องสุขภาพของเด็กและครอบครัวอย่างมีประสิทธิภาพ