เจิ้ง เพ่ยอี๋ (鄭珮怡) เกิดในชนบทของมณฆลหยุนหลิ๋น เดิมทีพ่อของเธอเป็นช่างตัดเสื้อ ต่อมาได้ทำฟาร์มเกษตรด้วยเหตุผลบางประการ ส่วนแม่ของเธอเป็นผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ชาวอินโดนิเซีย ซึ่งหลังจากแต่งงานมาไต้หวันก็ได้คอยช่วยเหลือคุณพ่อทำการเกษตร
เจิ้ง เพ่ยอี๋ถูกพ่อสอนตั้งแต่เด็กว่า หากโตแล้วได้เป็นข้าราชการ ซึ่งนอกจากจะเป็นงานและมีรายได้ที่มั่นคงแล้ว ชีวิตก็จะมีความมั่นคงด้วย เธอได้จำคำพูดของพ่อเอาไว้ และพยายามสอบเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยแห่งชาติจี้หนาน (國立暨南大學) และเมื่อเรียนจนถึงชั้นปีที่ 3 เธอได้เรียนไปด้วย และเรียนพิเศษไปด้วย โดยเธอมีความหวังว่าตนเองจะสามารถสอบเข้าเป็นเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองได้ เนื่องจากความกระตือรือร้นและความมุมานะ หลังจากที่เจิ้ง เพ่ยอี๋เรียนจบมหาวิทยาลัยก็สามารถสอบเป็นเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองได้ทันที และหลังจากผ่านการฝึกอบรมมา 8 เดือน ตอนนี้เธอถูกส่งไปประจำการที่สนามบินแล้ว
ข้าราชการมีตำแหน่งว่างอีกมากมาย แต่ทำไมถึงเลือกเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง? เจิ้ง เพ่ยอี๋กล่าวว่า ตอนที่เรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายได้เห็นข่าวการก่อตั้งสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งเธอก็ตั้งใจว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองในอนาคตให้ได้ เจิ้ง เพ่ยอี๋เลือกเรียนภาควิชาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษาที่มหาวิทยาลัยแห่งชาติจี้หนาน ทำให้เธอมีความเชี่ยวชาญในประวัติศาสตร์ การเมือง และเศรษฐศาสตร์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากจะรู้จักบ้านเกิดของแม่เธอแล้ว เธอก็หวังว่าในขณะที่ดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง จะได้ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาไต้หวันหรือผู้ที่มาทำงาน ซึ่งตนเองมีความเข้าใจพวกเค้าเป็นอย่างยิ่ง
เจิ้ง เพ่ยอี๋สับสนเกี่ยวกับคำว่า “ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่รุ่นที่ 2” ตั้งแต่อายุยังน้อย ตั้งแต่เด็กๆ เธอรู้สึกว่าตนเองก็เหมือนกับคนไต้หวันทั่วไป แต่เนื่องจากแม่ของเธอเป็นผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ ทำให้เธอเกิดความสงสัยว่าตนเองจริงๆ แล้วเป็นใคร
แต่ไม่ว่าจะเป็นคนไต้หวันหรือคนอินโดนิเซีย ก็ส้วนแต่เป็นสิ่งที่ตัดออกจากตัวเธอไม่ได้ ตอนที่เธอเรียนภาควิชาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา เธอมีความตั้งใจเรียนรู้ภาษาอินโดนิเซียเป็นอย่างมาก หลังจากที่เธอหมดความสงสัย ก็ค่อยๆ ทำความรู้จักกับตัวเอง
สิ่งที่เจิ้ง เพ่ยอี๋คาดหวังว่า ชาวไต้หวันที่ไม่มีความเข้าใจแล้วปฎิบัติต่อผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่แบบที่ตนเองเข้าใจผิด คนส่วนใหญ่ไม่ได้แต่งงานกับไต้หวันเพราะเงิน เธอหวังว่าทุกคนสามารถปฏิบัติต่อผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ด้วยความเคารพและความอดทน ท้ายสุดนี้ เธอก็อยากจะพูดกับเพื่อนที่มีประสบการณ์คล้ายกันว่า: "ทำงานหนักและพากเพียร ก็จะสามารถค้นพบท้องฟ้าของคุณเอง"