แพทย์แนะนำวิธีการเตรียมความพร้อมก่อนการวิ่งมาราธอน ช่วยลดความเสี่ยงจากการบาดเจ็บ

[เว็บไซต์ข่าวรอบโลกสำหรับผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่] ตามรายงานของ “ประชาชาติธุรกิจ” แพทย์หญิงสุรีย์รัตน์  ศรีตั้งรัตนกุล กล่าวว่า ปัจจุบันคนไทยให้ความสนใจกับการวิ่งมากขึ้น เพราะการวิ่งเป็นการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่ดีและเริ่มต้นได้ไม่ยาก เพียงมีรองเท้าวิ่งและชุดใส่สำหรับวิ่งก็สามารถออกวิ่งได้ทันที การที่เราใช้ชีวิตปกติ ออกกำลังกายเบาๆ หรือเข้าฟิตเนสนั้น ร่างกายของเราอาจจะไม่ได้แสดงโรคร้ายแรงออกมา เช่นโรคหัวใจ หัวใจตีบ หัวใจเต้นผิดจังหวะ หรือลิ้นหัวใจผิดปกติ แต่เมื่อเราใช้ร่างกาย ใช้หัวใจในการวิ่งระยะไกล  โรคเหล่านี้จะโชว์ออกมาให้เราเห็น ดังนั้น เราต้องตรวจร่างกายเพื่อลดความเสี่ยงก่อนเป็นอันดับแรก” สำหรับการตรวจคัดกรองสุขภาพร่างกายนั้น มีตั้งแต่การตรวจเลือด และตรวจค่าต่างๆ เช่น ค่าน้ำตาล ค่าไขมัน ค่าตับ ค่าไต โดยค่าเลือดหลายตัวจะสามารถบ่งชี้การอักเสบในหัวใจ ต่อมาคือ การตรวจดูคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ทั้งขณะอยู่นิ่ง และขณะเหนื่อย หรือขณะวิ่งบนสายพาน เพื่อจำลองการเหนื่อยของร่างกาย เพื่อตรวจดูความผิดปกติของหัวใจห้องต่างๆ กล้ามเนื้อหัวใจ และลิ้นหัวใจ นอกจากนี้ อาจจะต้องตรวจเช็คกล้ามเนื้อเพิ่มเติมเพื่อดูความแข็งแรง และความหนาแน่นของมวลกระดูกและข้อต่อว่ามีปัญหาหรือไม่

อ่านข่าวเพิ่มเติม : วารสารนานาชาติชี้ เดินวันละ 4,000 ก้าว ลดความเสี่ยงการเสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ !

ตามรายงานของ “ประชาชาติธุรกิจ” หลังจากได้รับการประเมินจากแพทย์ว่าสุขภาพร่างกายโดยรวมของเราสามารถร่วมวิ่งมาราธอนได้ ขั้นตอนต่อไป คือ การเตรียมตัวฝึกซ้อมสำหรับการลงวิ่งมาราธอน ซึ่งขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของร่างกายของแต่ละบุคคล ผู้ที่เคยมีประสบการณ์วิ่งระยะไกลมาก่อน อาจใช้เวลาในการเตรียมตัวไม่นาน ประมาณ 2-3 เดือนก่อนวันลงแข่ง แต่สำหรับผู้ที่ไม่เคยวิ่งมาราธอนมาก่อน จะต้องใช้การเตรียมตัวนานกว่านั้น แพทย์หญิงสุรีย์รัตน์ กล่าวเสริมว่า การซ้อมวิ่งและการเตรียมพร้อมกล้ามเนื้อด้วย Weight Training เป็นเรื่องที่สำคัญมาก โดจะต้องมีการยืดเหยียดก่อนซ้อมและคลายกล้ามเนื้อหลังซ้อมทุกครั้ง เพื่อลดปัญหาการบาดเจ็บ ที่อาจทำให้เราไม่สามารถฝึกซ้อมต่อ หรือลงแข่งได้ นอกจากนี้ยังต้องมีการเตรียมความพร้อมทางด้านจิตใจ หากเกิดความกลัวหรือประหม่า ทำให้ในวันจริงอาจวิ่งไม่ได้ สำหรับด้านอาหารและโภชนาการต่างๆ ก็ต้องมีการเตรียมตัวเช่นกัน ต้องดูแลปริมาณคาร์โบไฮเดรต น้ำ เกลือแร่ และโปรตีนก่อนและหลังการวิ่งให้ดี และเรื่องสุดท้าย คือ เรื่องการพักผ่อน ไม่ควรซ้อมหนักตลอด 7 วันในหนึ่งสัปดาห์ ควรจัดวันพักให้เหมาะสม เพื่อฟื้นฟูกล้ามเนื้อ

อ่านข่าวเพิ่มเติม:การบริโภควิตามินซีมากเกินไป อาจส่งผลให้การตรวจพบโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ล่าช้า