เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการร่วมระหว่างรัฐบาลตามภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ของยูเนสโก ครั้งที่ 14 ระหว่างวันที่ 8-14 ธ.ค.2562 ณ กรุงโบโกตา สาธารณรัฐโคลอมเบีย ซึ่งมีวาระประกาศผลการพิจารณาขึ้นทะเบียนมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ The Intangible Cultural Heritage(ICH) ประจำปี 2019 จำนวนรวม 51 รายการ ประกอบด้วย Urgent List จำนวน 6 รายการ Representative List จำนวน 42 รายการ และ Good Practice List จำนวน 3 รายการ สำหรับนวดไทย จัดอยู่ในกลุ่ม Representative List of ICH หรือ รายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ซึ่งในที่ประชุมมีมติรับรองและประกาศให้ “นวดไทย” NUAD THAI ขึ้นทะเบียนในรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ นับรายการที่สอง ที่ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนกับยูเนสโก ต่อจากรายการ “โขน” ที่ขึ้นไปแล้วเมื่อปี 2561
นายอิทธิพล กล่าวว่า นวดไทย ถือเป็นมรดกภูมิปัญญาที่เป็นศาสตร์และศิลป์ทางการแพทย์ดั้งเดิมเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพที่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาและวัฒนธรรมท้องถิ่นและพระพุทธศาสนา และเป็นการรักษาทางเลือกควบคู่ไปกับการดูแลสุขภาพตามแบบแผนตะวันตกสมัยใหม่ มีองค์กรที่ส่งเสริมและพัฒนาการนวดมากกว่า 50 องค์กร โดยมีหมอนวดที่ผ่านมาเรียนแล้วเกือบ 3 แสนคน นอกจากนี้การที่ยูเนสโกขึ้นทะเบียน นวดไทย เป็นการกระตุ้นให้เกิดการอนุรักษ์ สืบทอด สร้างความหวงแหนมรดกทางวัฒนธรรมนวดไทย อันจะส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของประเทศไทย อีกด้วย
นวดไทย นอกจากจะได้รับความนิยมในประเทศไทย แล้ว เว็บไซต์เดลี่เมล์ สำนักข่าวชื่อดังของอังกฤษ รายงานว่า ก่อนที่ยูเนสโกจะประกาศให้นวดไทยเป็นมรดกโลกทางภูมิปัญญาอย่างเป็นทางการนั้น การนวดไทย ศาสตร์การแพทย์แผนโบราณที่มีอายุมากกว่า 2,000 ปีของไทย เป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติให้ความนิยมเดินทางมาใช้บริการแล้ว มีจำนวนมากที่สมัครเรียนนวดแผนไทยในสถานที่ต่างๆ โดยเฉพาะที่วัด วัดโพธิ์ มีผู้สำเร็จวิชานวดแผนไทยตำรับวัดโพธิ์ไปแล้วกว่า 2 แสน คน จาก 145 ประเทศทั่วโลก อย่างไรก็ตาม นวดไทย ยังเป็นอาชีพที่สามารถสร้างรายได้ให้แก่หมอนวดแผนไทยตามเมืองใหญ่ทั่วโลก เช่น นิวยอร์กลอนดอน และฮ่องกง เป็นต้น
นพ.ปราโมทย์ เสถียรรัตน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกกล่าวว่า กรมการแพทย์ฯได้จัดทำแผนยุทธศาสตร์การส่งเสริมและพัฒนานวดไทย(ฉบับที่ 1 ) พ.ศ.2563-2565 ซึ่งผ่านการรับฟังความคิดเห็นจากหน่วยงานภาครัฐและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเพื่อเป็นกำหนดทิศทางขับเคลื่อนการดำเนินงานให้สอดคล้องตามแผนปฏิรูปประเทศโดยมีแนวทางสำคัญคือ การสร้างมาตรฐานนวดไทยทั้งในด้านองค์ความรู้หลักสูตรรวมถึงระบบบริการนวดไทยให้เป็นที่ยอมรับตั้งแต่ในระดับชุมชนซึ่งเป็นตันกำเนิดภูมิปัญญานวดไทยสถานพยาบาลสถานประกอบการเพื่อสุขภาพและในระดับสากลมีการสร้างอัตลักษณ์นวดไทยสู่ระดับโลกได้แก่การยกย่องเชิดชูเกียรติหมอไทยแห่งชาติ สาขานวดไทย สร้างพิพิธภัณฑ์การนวดไทยและรูปหล่อฤาษีดัดตนขนาดใหญ่เป็นแลนด์มารคของกรุงเทพฯ ที่สำคัญคนไทยและทั่วโลกจะได้จดจำว่า12 ธ.ค.2562 ยูเนสโก ประกาศนวดไทยขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ
ข้อมูลข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์