ระวัง! ประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ที่ฉีดวัคซีน 2 โดสและมีระยะห่างครบ 12 สัปดาห์ สามารถเข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้นได้

[เว็บไซต์ข่าวรอบโลกสำหรับผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่] เพื่อรับมือกับไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน (Omicron) หลังจากศูนย์บัญชาการควบคุมโรคไต้หวัน (CECC) ได้ร่วมหารือกับผู้เชี่ยวชาญของ Advisory committee on immunization practice (ACIP) ได้มีประกาศเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า ประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ที่ได้รับการฉีดวัคซีน 2 โดสแล้ว และมีระยะห่างครบ 12 สัปดาห์ (84 วัน) สามารถเข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้น เพื่อป้องกันโรคโควิด-19 และเพิ่มภูมิคุ้มกันของตนเองโดยเร็ว

อ่านข่าวเพิ่มเติม: พนักงานต้องดู! ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 65 เป็นต้นไป หากนายจ้างจัดให้พนักงานทำงานล่วงเวลาไม่ว่าจะเป็นกะกลางวันหรือกะดึกต้องจ่ายค่าโอที

ประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป สามารถเข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้นได้ ภาพจาก／คลังภาพ Pixabay

ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า ขอแนะนำให้ผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ที่ได้รับการฉีดวัคซีน 2 โดสและมีระห่างครบ 12 สัปดาห์ ให้เข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเพิ่มอีก 1 เข็ม เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันของตนเองและป้องกันการติดเชื้อแบบคลัสเตอร์ โดยคำแนะนำในการเลือกยี่ห้อวัคซีนเข็มกระตุ้นมีดังนี้:

1. ผู้ที่ฉีดวัคซีน mRNA (วัคซีนโมเดอร์นา, วัคซีนไฟเซอร์หรือเรียกว่า BNT) หรือวัคซีนชนิดโปรตีนซับยูนิต (Protein Subunit) (วัคซีนเกาตวน) มาก่อน สามารถเลือกที่จะฉีดวัคซีนวัคซีนโมเดอร์นา (ครึ่งโดส), วัคซีนไฟเซอร์ BNT, วัคซีนเกาตวน หรือ วัคซีนแอสตราเซเนกา AZ
2. ผู้ที่ฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกา AZ มาก่อน สามารถเลือกที่จะฉีดวัคซีนวัคซีน mRNA หรือวัคซีนชนิดโปรตีนซับยูนิตได้

อ่านข่าวเพิ่มเติม: คุณแม่ต้องรีบดู! รัฐบาลเมืองนิวไทเปประกาศ ปีใหม่นี้ให้กำเนิดบุตรคนที่ 3 จะได้รับเงินอุดหนุนเป็น 30,000 เหรียญไต้หวัน

ผู้ที่มีคุณสมบัติสามารถนัดหมายการฉีดวัคซีนได้ที่ “วัคซีนป้องกัน COVID-19 All-in-One” ภาพจาก／คลังภาพ Pixabay

ศูนย์บัญชาการฯ แจ้งว่า ปัจจุบันสต๊อกวัคซีนในประเทศเพียงพอต่อความต้องการของประชาชนเป็นอย่างมาก และได้มีการขอให้สำนักงานสาธารณสุขท้องถิ่นได้เร่งให้บริการฉีดวัคซีนแก่ประชาชนโดยเร็วที่สุด ผู้ที่มีคุณสมบัติตรงตามช่วงเวลาการฉีดวัคซีนสามารถตรวจสอบเวลาให้บริการ ยี่ห้อของวัคซีน และสถานีให้บริการฉีดวัคซีนบริเวณใกล้เคียงผ่านเว็บไซต์ “วัคซีนป้องกัน COVID-19 All-in-One” หรือประกาศของสำนักงานสาธารณสุขท้องถิ่นได้