ตั้งแต่ 4 พ.ค. เป็นต้นไป ผู้ที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศหากที่พักมีผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยเรื้อรังจะต้องทำการกักกันโรคที่โรงแรมเพื่อการกักกันโรคโดยเฉพาะ

ศูนย์บัญชาการกลางป้องกันโรคติดต่อไต้หวันประกาศว่า เนื่องจากในต่างประเทศมีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง

ดังนั้นตั้งแต่เวลา 0.00 น. ของวันที่ 4 พ.ค.เป็นต้นไป ประชาชนที่เดินทางจากต่างประเทศเข้ามาไต้หวัน นอกจากต้องกรอกใบรับรองสุขภาพและใบรับทราบการกักกันโรค (Covid-19 Health Declaration and Home Quarantine Notice) ยังต้องยืนยันว่าที่อยู่อาศัยเป็นไปตามเงื่อนไขการกักกันโรคที่บ้านหรือไม่เพื่อความปลอดภัยของการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคในประเทศ

ศูนย์บัญชาการกลางป้องกันโรคติดต่อกล่าวเพิ่มเติมว่า ประชาชนที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ หากอยู่อาศัยร่วมกับผู้สูงอายุที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป (รวม 65 ปีด้วย) หรือเด็กเล็กที่มีอายุต่ำกว่า 6 เดือน (รวม 6 เดือนด้วย) รวมทั้งผู้ป่วยโรคเรื้อรัง (เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือดเบาหวานหรือปอด เป็นต้น) หากไม่มีห้องส่วนตัว (รวมถึงห้องน้ำ)  หลังจากเข้าประเทศจะต้องเข้าไปกักกันตัวที่โรงแรมเพื่อการกักกันโรคโดยเฉพาะ หากให้ข้อมูลที่ไม่เป็นจริงก็จะโดนปรับเป็นเงินสูงสุด  150,000 เหรียญไต้หวัน

ศูนย์บัญชาการกลางป้องกันโรคติดต่อกล่าวว่า ปัจจุบันมีการยืนยันผู้ป่วยโรคโควิด-19 ใน 186 ประเทศ / ภูมิภาคทั่วโลก และมีจำนวนผู้ได้รับการยืนยันการติดเชื้อจำนวนมากกว่า 3.38 ล้านคน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการแพร่ระบาดทั่วโลกยังมีความรุนแรง ขอให้ประชาชนที่กลับมาไต้หวันและที่พักอาศัยไม่ตรงตามเงื่อนไขการกักกันโรคที่บ้านให้เข้าพักที่โรงแรมเพื่อการกักกันโรค เพื่อไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดไปยังผู้ที่อยู่อาศัยด้วยกันหากเกิดไม่สบายในระหว่างการกักกันโรค โดยโรงแรมเพื่อการกักกันโรคสามารถรองรับได้ 6,933 เตียง ณ วันที่ 30 เมษายนมีผู้เข้าพักจำนวน 1,860 คน

ศูนย์บัญชาการกลางป้องกันโรคติดต่อขอให้ประชาชนที่อยู่ในระหว่างการกักกันโรคหลีกเลี่ยงการสัมผัสดวงตา ปาก จมูก และล้างมือบ่อยๆ และมีมารยาทในการไอจาม หากมีไข้ ไอ หรืออาการไม่สบายอื่นๆ ห้ามเดินทางออกไปพบแพทย์ด้วยตนเอง ให้ติดต่อกับสำนักงานเขตหรือเมืองหรือศูนย์ดูแลในท้องถิ่นและทำตามคำแนะนำเพื่อไปพบแพทย์ ห้ามใช้ระบบขนส่งมวลชน หากฝ่าฝืนกฎระเบียบการกักกันโรคก็จะโดนปรับเป็นเงินสูงสุดถึง 1 ล้านเหรียญไต้หวัน