ด้วยความกังวลเกี่ยวกับการเตรียมรับมือพายุไต้ฝุ่นหมายเลข 6 ในปีนี้ เมื่อวานนี้ นายซู เจินชาง (蘇貞昌) นายกรัฐมนตรีของไต้หวันได้เดินทางไปเยือนกรมอุตุนิยมวิทยา ซึ่งนอกจากจะให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ในการปฎิบัติงาน นายซูยังหวังว่าชาวไต้หวันจะเตรียมพร้อมรับมือกับพายุไต้ฝุ่น นอกจากนี้ นายซูยังประกาศว่า รัฐบาลได้จัดสรรเงินสำหรับ “โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานข้อมูลเพื่อเสริมสร้างข้อมูลสภาพอากาศอย่างชาญฉลาด” เพื่อส่งเสริมให้กรมอุตุนิยมวิทยาไต้หวันมีอุปกรณ์ที่ดีที่สุดที่สามารถให้ข้อมูลด้านสภาพอากาศล่าสุดแก่ประชาชนซึ่งจะช่วยลดความเสียหายจากภัยพิบัติและปรับปรุงความมั่นคงของชาติ
นายซู เจินชาง กล่าวว่าพายุไต้ฝุ่นมาอย่างกะทันหัน ตนเดินทางมาเยือนกรมอุตุนิยมวิทยาเป็นกรณีพิเศษเพื่อขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่คอยรายงานข้อมูลแบบเรียลไทม์และถูกต้องแก่ประชาชน ก่อนพายุไต้ฝุ่นหมายเลข 6 จะมีชื่อ เราก็ได้พยากรสภาพอากาศก่อนที่อื่นและได้ออกคำเตือนพายุไต้ฝุ่นทั้งทางทะเลและทางบก จึงถือโอกาสนี้แสดงความขอบคุณเจ้าหน้าที่ของกรมอุตุนิยมวิทยาและเป็นกำลังใจในการปฎิบัติงานด้วย
นายซู เจินชางเตือนชาวไต้หวันว่า แม้ว่าพายุดีเปรสชันเขตร้อนลูกนี้จะไม่ใช่พายุไต้ฝุ่นที่มีความรุนแรง แต่ก็อาจทำให้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ตอนกลางและตอนใต้ของประเทศเช่นเดียวกับในเดือนส.ค.ปี 2018 หากประชาชนมีการเตรียมพร้อมมากเท่าไหร่ ภัยพิบัติก็จะยิ่งเล็กลงเท่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูพายุไต้ฝุ่น ประชาชนต้องเชื่อฟังการประกาศของกรมอุตุนิยมวิทยาและหวังว่าทุกคนจะเตรียมพร้อมรับมือเพื่อให้ภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้นเบาบางลง รวมทั้งเป็นการช่วยลดภาระให้กับสังคมและประเทศด้วย
นายซู เจินชาง กล่าวว่า ความพยายามของนายเจิ้ง หมิ๋งเตี่ยน (鄭明典) ผู้อำนวยการกรมอุตุนิยมวิทยาและเจ้าหน้าที่ ประธานาธิบดีไช่ อิงเหวินและรัฐบาลได้มองเห็นแล้ว ดังนั้นความต้องการอุปกรณ์ที่ทันสมัยที่สุดของกรมอุตุนิยมวิทยาที่ต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก หลังจากนายเจิ้งได้ส่งความต้องการไปยังสภาบริหารไต้หวัน ทางสภาบริหารก็ได้รวบรวมงบประมาณ 1 พันล้านเหรียญไต้หวันสำหรับโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานข้อมูลเพื่อเสริมสร้างข้อมูลสภาพอากาศอย่างชาญฉลาด โดยหวังว่าการพยากรอากาศของไต้หวันจะยืนอยู่ในระดับแนวหน้าของโลกอยู่เสมอ นายซูกล่าวย้ำอีกว่า หากอุตุนิยมวิทยามีอุปกรณ์ที่ดีที่สุดและเข้าใจข้อมูลล่าสุดก็จะช่วยให้ไต้หวันเป็นผู้นำของโลก และชาวไต้หวันก็จะได้รับข้อมูลที่รวดเร็วเสมอ ซึ่งเป็นการช่วยลดความเสียหายจากภัยพิบัติและสร้างความสงบสุขของประเทศ