วิถีชีวิตสมัยใหม่ที่เร่งรีบทำให้หลายคนมีปัญหาด้านอาหารที่ไม่สมดุล นั่งนานและออกกำลังกายน้อย ทำให้ท้องผูกกลายเป็นปัญหาที่พบบ่อย แพทย์แผนจีนแนะนำว่านอกจากการรับประทานอาหารที่สมดุลและมีผักผลไม้มาก ๆ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและลดการนั่งนานแล้ว การกดจุดยังสามารถช่วยแก้ปัญหาท้องผูกได้
แพทย์แนะนำว่าเพื่อบรรเทาปัญหาท้องผูก ควรกดจุด "ซื่อโคว" ทุกวัน ซึ่งในแพทย์แผนจีนเรียกว่าจุด "ทงเปียน"
จุดซื่อโควเป็นจุดไฟในเส้นลมปราณซานเจียว เส้นลมปราณซานเจียวควบคุมการไหลของพลังชี่ทั่วร่างกาย และจุดซื่อโควมีสรรพคุณในการระบายความร้อน ขับพลังไฟ และปรับการไหลของพลังชี่ ดังนั้นจึงมักใช้ในการรักษาโรคที่เกี่ยวกับการไหลของพลังชี่ และใช้บ่อยในการรักษาท้องผูก การกดจุด "ซื่อโคว" ทุกวันสามารถช่วยบรรเทาปัญหาท้องผูกได้ (ภาพโดย Heho Health)
หลายคนที่มีปัญหาท้องผูกจะมีการขับถ่ายที่ไม่เป็นปกติ ทำให้เวลาขับถ่ายนานและต้องใช้แรงมาก ในแพทย์แผนจีนนี้เรียกว่า "ท้องผูกแบบชี่ซู" หมายถึงการที่ลำไส้ไม่สามารถขยับได้ดี การใช้จุดซื่อโควสามารถปรับสมดุลร่างกายในกรณีนี้ได้
จุดซื่อโควอยู่ด้านหลังของปลายแขน ห่างจากเส้นข้อมือ 3 ชุ่น (ประมาณ 4 นิ้วของตัวเอง) ระหว่างกระดูกอูลนาและเรเดียส เมื่อกดจะรู้สึกเจ็บและบวม
เมื่อหาจุดซื่อโควได้แล้ว ใช้นิ้วหัวแม่มือถูนวดจุดซื่อโคว สามารถกดตรง ๆ หมุนตามเข็มนาฬิกาหรือทวนเข็มนาฬิกาได้ กดนวดมือซ้ายและขวาครั้งละ 3 ถึง 5 นาที หลังจากนวดเสร็จแล้วมักจะรู้สึกว่าลำไส้เคลื่อนไหว บางคนอาจจะเรอขึ้น นี่เป็นเรื่องปกติ สำหรับผู้ที่ท้องผูกเรื้อรังแนะนำให้นวดทุกวันหลายครั้ง และนวดท้องตามเข็มนาฬิกาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพหลายคนประสบปัญหาท้องผูก (ภาพโดย Heho Health)
นอกจากการปรับปรุงท้องผูกแล้ว จุดซื่อโควยังช่วยบรรเทาอาการปวดชายโครงหรือปวดเส้นประสาทระหว่างชายโครงได้อีกด้วย Lin Guowei กล่าวว่า ชายโครงหมายถึงบริเวณตั้งแต่รักแร้ถึงด้านข้างของร่างกาย อาการแน่น ๆ ที่ชายโครง แน่นจากพลังชี่และเลือดอุดตัน สามารถกดจุดซื่อโควเพื่อบรรเทาได้ โรคที่ทำให้เกิดอาการปวดเส้นประสาทระหว่างชายโครงที่พบบ่อยที่สุดคือโรคงูสวัด ความเจ็บปวดนี้จะตามชายโครงจากด้านหลังถึงด้านหน้า เมื่อกดจุดซื่อโควจะช่วยลดความเจ็บปวดได้
การนวดจุดสามารถปรับสมดุลร่างกายได้ แต่เมื่อมีปัญหาควรไปพบแพทย์ที่มีใบรับรองการรักษา การรักษาแผนจีนมักจะรวมกับการฝังเข็ม การครอบแก้ว การระบายเลือด การใช้ยา ฯลฯ ผู้คนทั่วไปไม่ควรลองเอง ต้องไปพบแพทย์แผนจีนที่มีใบรับรองเท่านั้น