ผู้คนนับล้านในไต้หวันประสบปัญหานอนไม่หลับในแต่ละวัน จากการวิจัยของศาสตราจารย์ Chang Chih-Jen จากมหาวิทยาลัยแห่งชาติเฉิงกง พบว่าอัตราการเกิดการนอนไม่หลับในไต้หวันสูงถึง 28% โดยเฉพาะในกลุ่มคนวัย 20 ถึง 39 ปีที่มีอัตราสูงถึงเกือบ 30% ซึ่งอยู่ในอันดับต้น ๆ ของเอเชีย Dr. Yuan Wei จากโรงพยาบาลเจิ้นซิงระบุว่า ปัจจัยต่าง ๆ เช่น ความเครียด อายุ และการรับประทานอาหารที่ไม่เหมาะสมก่อนนอน อาจส่งผลต่อคุณภาพการนอนหลับ
อาหารที่กระตุ้นการนอนไม่หลับที่พบบ่อยได้แก่ คาเฟอีน น้ำตาลสูง ไขมันสูง และอาหารรสเผ็ด คาเฟอีนในกาแฟและชาจะกระตุ้นระบบประสาท ทำให้หลับยากและลดการนอนหลับลึก น้ำตาลในปริมาณมากจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดไม่คงที่ และกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนความเครียด ไขมันและอาหารรสเผ็ดทำให้กระบวนการย่อยอาหารช้าลงและเพิ่มอุณหภูมิของร่างกาย นอกจากนี้ แอลกอฮอล์และอาหารที่ทำให้เกิดแก๊ส เช่น ถั่วและกะหล่ำปลี ยังส่งผลให้การนอนหลับไม่ต่อเนื่องอาหารที่เป็นสาเหตุของการนอนไม่หลับที่พบบ่อยรวมถึงคาเฟอีน (ภาพ/ได้รับความอนุเคราะห์จาก Heho Health)
วิธีแก้ปัญหานอนไม่หลับที่ได้ผล ควรหลีกเลี่ยงอาหารเหล่านี้ และรับประทานอาหารที่มี ทริปโตเฟน แคลเซียม แมกนีเซียม และวิตามินบี เช่น ปลา ถั่ว ผลิตภัณฑ์จากนม และถั่วเปลือกแข็ง ซึ่งช่วยทำให้อารมณ์สงบและเสริมคุณภาพการนอนหลับ การปรับเปลี่ยนอาหารและกิจวัตรประจำวันอย่างเหมาะสมคือวิธีที่มีประสิทธิภาพ
การปรับอาหารและกิจวัตรประจำวันให้เหมาะสมเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการแก้ปัญหาการนอนไม่หลับ (ภาพ/ได้รับความอนุเคราะห์จาก Heho Health)
บทความนี้เผยแพร่โดยได้รับอนุญาตจาก Heho Health