เข้าสู่ฤดูร้อนอย่างเป็นทางการ นอกเหนือจากจะถึงฤดูกาลของมะยงชิด มะม่วง ทุเรียน และอีกสารพัดผลไม้ อีกหนึ่งเมนูฮิตที่ต้องเก็บประจำเดือนนี้ก็คือ ‘ข้าวแช่’
ข้าวแช่ เป็นเมนูคลายร้อนแบบไทยๆ ที่ได้รับอิทธิพลมาจากมอญอีกที ซึ่งเดิมทีเป็นอาหารที่ใช้ในการเซ่นไหว้เหล่าทวยเทพในงานตรุษสงกรานต์ ก่อนที่จะถูกปรุงเพื่อใช้ถวายเจ้าฟ้าและเจ้านายชั้นต่างๆ และเผยแพร่สู่สาธารณะตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 เป็นต้นมา มีส่วนผสมที่สำคัญสองส่วนที่ถือเป็นหัวใจ คือการเตรียมข้าวและน้ำลอยดอกมะลิ กับส่วนที่สองคือเครื่องเคียง ซึ่งทั้งสองส่วนมีรายละเอียดความพิถีพิถันในการเตรียมแทบจะทุกขั้นตอน ทำให้การปรุงข้าวแช่ในแต่ละปีถือเป็นงานฝีมือดีๆ นี่เอง
ไหนๆ ปีนี้ก็เข้าฤดูร้อนแล้ว และหลากหลายร้านอาหาร โรงแรม ก็เตรียมเสิร์ฟเมนูนี้กันทั้งเดือน THE STANDARD POP จึงอยากชวนคุณแพลนมื้อพิเศษไปกินข้าวแช่คลายร้อนกันจาก 10 ร้านอาหารต่อไปนี้
อ่านเรื่องข้าวแช่เพิ่มเติมได้ที่ https://thestandard.co/khaochae/
1. พระนคร โรงแรมคาเพลลา กรุงเทพ
ข้าวแช่จากห้องอาหารพระนคร ปรุงจากสูตรของ เชฟเล็ก-วิเชียร ตรีรัตนวาทิน มีให้เลือกระหว่างข้าวหอมมะลิ หรือข้าวสามกษัตริย์ แช่น้ำลอยดอกมะลิ เสิร์ฟกับเครื่องเคียง 6 ชนิด ได้แก่ กะปิทอด หลุ่มพริกหยวกสอดไส้หมูสับ หมูฝอย หัวไชโป๊ผัดหวาน ผักดองต่างๆ และผักเคียง
ราคาชุดละ 650 บาท เสิร์ฟถึง 18 เมษายน 2564
https://www.facebook.com/phranakhon.bangkok
2. Royal Osha
ร้านอาหาร Royal Osha (รอยัล โอชา) โดย เชฟวิชิต มุกุระ ต้อนรับฤดูร้อนด้วยเมนูข้าวแช่ชาววังและข้าวยำ ข้าวแช่ของทางร้านใช้ข้าวหอมมะลิเสาไห้ ลอยน้ำลอยดอกไม้ที่ใช้ดอกไม้ถึง 4 ชนิด ได้แก่ ดอกชมนาด, ดอกกระดังงา, ดอกกุหลาบมอญ และดอกมะลิ กินกับเครื่องเคียง 7 ชนิด ประกอบด้วย ลูกกะปิทอด, พริกหยวกสอดไส้, ไข่เค็มชุบแป้งทอด, หมูฝอยหวาน, หอมแดงสอดไส้ชุบแป้งทอด, ไชโป๊ผัด และผักสดแกะสลัก นอกจากนี้ยังมีข้าวยำปักษ์ใต้ที่ผสมน้ำยำสูตรเฉพาะของเชฟวิชิต เสิร์ฟในช่วงฤดูร้อนนี้อีกด้วย
ราคา 880 บาทต่อท่านสำหรับมื้อกลางวัน, 3,000 บาทสำหรับชุดข้าวแช่พรีเมียมทั้งมื้อกลางวันและมื้อเย็น และสามารถซื้อแบบบรรจุกล่องเป็นของฝากได้ในราคา 2,250 บาทต่อชุด (ผู้ที่สนใจสามารถสั่งจองล่วงหน้า 2 วัน) เสิร์ฟถึง 31 พฤษภาคม 2564
https://www.facebook.com/royaloshabkk
3. Siam Tea Room โรงแรมแบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค
Siam Tea Room (สยาม ที รูม) เป็นอีกหนึ่งห้องอาหารที่เสิร์ฟข้าวแช่สูตรโบราณทุกๆ ปี โดยในปีนี้สำหรับลูกค้าที่นั่งกินที่ร้าน ทางร้านจะมีเมนูพิเศษอย่างกระท้อนเสวย เสิร์ฟคู่กันกับชุดข้าวแช่ที่ประกอบไปด้วย ข้าวแช่ลอยน้ำดอกมะลิอบควันเทียน เคียงกับลูกกะปิทอด, พริกหยวกสอดไส้, หอมแดงยัดไส้ปลา, หมูฝอย, ปลายี่สนผัดหวาน, ไชโป๊ผัด, อัญชันยัดไส้กุ้ง, ไข่เค็ม, ผักสดแนม และน้ำแตงโมปั่น
ราคา 590 บาทต่อชุด หรือแบบสั่งกลับบ้าน 490 บาท เสิร์ฟถึง 31 พฤษภาคม 2564
https://www.facebook.com/bangkokmarriottmarquis
4. ทองหล่อ
ข้าวแช่ชาววังสูตรของร้านอาหารไทย ทองหล่อ ปรุงโดย เชฟโธมัส-วรพล อิทธิคเณศร เริ่มจากการเลือกใช้ข้าวสารจากจังหวัดปทุมธานี ลอยด้วยน้ำลอยดอกมะลิ กุหลาบมอญ และเทียนร่ำกระดังงา ทานคู่กับเครื่องเคียง 9 ชนิด ได้แก่ เกสรไพลิน (ดอกอัญชันสอดไส้ไข่เค็ม), หมูฝอยเส้นทอง, ลูกกะปิทอด, หอมแดงสอดไส้กุ้ง, ปลายี่สนผัดหวาน, พริกหยวกสอดไส้, การะเวกสอดสี (หมูสับห่อกุนเชียง), ไชโป๊ผัดน้ำตาลโตนด และผักสด
สำหรับชุดเล็กราคา 495 บาท, ชุดเล็กพร้อมมาลัย 750 บาท, ชุดใหญ่ในปิ่นโตไม้สานราคา 1,290 บาท และชุดใหญ่ในปิ่นโตไม้สานพร้อมมาลัย 1,590 บาท เสิร์ฟถึง 30 มิถุนายน 2564
https://www.facebook.com/thonglorcuisine
5. Jim Thompson
ข้าวแช่ชุดจาก Jim Thompson (จิม ทอมป์สัน) เลือกข้าวหอมมะลิแช่ในน้ำปรุงอบควันเทียนลอยดอกกุหลาบมอญ เสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียงอย่าง พริกหยวกสอดไส้, หัวหอมแดงยัดไส้ปลาช่อนผัดหวาน, หัวไชโป๊ผัดหวาน, ปลาอินทรีชุบไข่ทอด, ปลายี่สนผัดหวาน, พริกแห้งสอดไส้ และลูกกะปิชุบไข่ทอด ปิดท้ายด้วยข้าวเหนียวมะม่วง
ราคา 590 บาทสำหรับกินที่ร้าน และ 640 บาทสำหรับสั่งกลับบ้าน เสิร์ฟถึง 31 พฤษภาคม 2564 https://www.facebook.com/jimthompsonrestaurants.thailand
6. R.HAAN
ข้าวแช่จาก เชฟชุมพล แจ้งไพร เลือกข้าวหอมมะลิพันธุ์ดีแช่ในน้ำแร่ธรรมชาติลอยดอกมะลิ เคียงกับเครื่องเคียงต่างๆ อย่าง ลูกกะปิทรงเครื่องและพริกหยวกสอดไส้ ให้บริการทั้งแบบกินที่ร้านและสั่งกลับบ้าน
ราคา 1,290 บาทต่อชุด เสิร์ฟถึง 1 พฤษภาคม 2564 https://www.facebook.com/RHAANThai
7. Miss Siam โรงแรมหัวช้าง เฮอริเทจ
ในทุกๆ ปีห้องอาหาร Miss Siam (มิส สยาม) ของโรงแรมหัวช้าง เฮอริเทจ จะเสิร์ฟเมนูข้าวแช่ในรูปแบบบุฟเฟต์ ให้คุณสามารถเลือกตัก จับคู่เมนูข้าวแช่กับเครื่องเคียงที่ชอบได้ ซึ่งนอกจากเมนูข้าวแช่แล้วยังมีอาหารไทยอื่นๆ อย่างน้ำพริก ขนมจีนซาวน้ำ หรือข้าวเกรียบปากหม้อที่ทำสดใหม่ให้เลือกกินได้ในไลน์บุฟเฟต์เช่นกัน ข้าวแช่ของที่นี่ลอยน้ำดอกไม้ที่เบลนด์ดอกไม้ถึง 10 ชนิด กินเคียงกับลูกกะปิทอด, ไชโป๊ผัดหวาน, หอมแดงยัดไส้ปลาแห้ง, หมูหวานฝอย, พริกแห้งยัดไส้กุ้ง, ไข่แดงเค็มทอด, หมูปั้นปลาอินทรี, พริกหยวกยัดไส้หมูสับ และแตงโมลำไยปลาแห้ง
ราคา 675 บาทต่อท่าน และ 450 บาทสำหรับชุดกลับบ้าน เสิร์ฟถึง 30 เมษายน 2564
https://www.facebook.com/HuaChangHeritageHotelBangkok
8. Spice Market โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพ
ห้องอาหาร Spice Market (สไปซ์ มาร์เก็ต) เสิร์ฟข้าวแช่โดย เชฟวรินธร สัมฤทธิ์ผล หัวหน้าครัวอาหารไทย ให้บริการทั้งแบบกินที่ร้านและสั่งกลับบ้าน เริ่มด้วยข้าวเสาไห้หุงและอบควันเทียนกลิ่นดอกไม้ เสิร์ฟในน้ำเย็นลอยดอกมะลิและกลีบกุหลาบ เคียงกับเครื่องต่างๆ อย่าง ลูกกะปิทรงเครื่อง, ผัดหัวผักกาดหวาน (หรือหัวไชโป๊หวาน), หอมแดงสอดไส้, ปลายี่สนผัดหวาน, พริกหยวกสอดไส้ และหมูฝอยหวาน
ราคา 580 บาทต่อชุด เสิร์ฟถึง 15 พฤษภาคม 2564
9. TAAN โรงแรมสยาม แอ็ท สยาม ดีไซน์ โฮเต็ล กรุงเทพ
สำหรับข้าวแช่ที่ห้องอาหาร TAAN (ธาน) โดย เชฟเทพ-มนต์เทพ กมลศิลป์ เรียกมื้อนี้ว่า ‘ข้าวแช่แรกรส’ ด้วยการทำข้าวแช่ที่ไม่อิงตำรับเดิม แต่เอาใจความของการปรุงอาหารเพื่อดับร้อนของข้าวแช่มาสร้างสรรค์เป็นข้าวแช่และเครื่องเคียงของเขาเอง อย่างการเลือกใช้น้ำลอยที่ไม่อบควันเทียน แต่ลอยน้ำดอกมะลิราชบุรีที่แช่ผสมกับชาเขียวจากเชียงรายและหอมหมื่นลี้จากโคราช เครื่องเคียงก็ดัดแปลงอย่าง พริกเขียวเผายัดไส้ล็อบสเตอร์ หมูสับสามเกลอห่อไข่ และพริกแดงสามเกลอยัดไส้หมูสับทอด
ราคา 490 บาทต่อท่าน เสิร์ฟตั้งแต่ 1 เมษายน 2564 เป็นต้นไป https://www.facebook.com/taanbangkok
10. Viu โรงแรมเดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ
ปีนี้โรงแรมเดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ เปลี่ยนบรรยากาศให้ห้องบุฟเฟต์ Viu (วูว์) ด้วยเมนูคลายร้อนแบบไทยๆ อย่างข้าวแช่ พร้อมเครื่องเคียงอย่าง ลูกกะปิทอด, พริกหยวกสอดไส้, หมูฝอย, ไชโป๊ผัดหวาน และผักสดนานาชนิด พร้อมด้วยของหวานอย่างไอศกรีมกะทิ
Songkran Lunch Buffet ราคา 1,288 บาทต่อท่าน ในวันที่ 14 เมษายน 2564 12.00-15.00 น.
www.stregisbangkokdining.com