img
:::

เนื่องในวันคุ้มครองโลก YSL Beauty เดินหน้าชู ‘สวนชุมชนอูริกา’ ตอกย้ำปณิธานความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมสะท้อนถึง ‘ความงามแห่งอนาคต’

เนื่องในวันคุ้มครองโลก YSL Beauty เดินหน้าชู ‘สวนชุมชนอูริกา’ ตอกย้ำปณิธานความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมสะท้อนถึง ‘ความงามแห่งอนาคต’

เนื่องในวันคุ้มครองโลก (Earth Day) ซึ่งตรงกับวันนี้ (22 เมษายน 2564) พอดี แบรนด์ความงามระดับโลกอย่าง YSL Beauty ได้ตอกย้ำปณิธานด้านความยั่งยืน จากความก้าวหน้าของสวนชุมชนอูริกา (Ourika Community Gardens) ตั้งอยู่ในเขตเทือกเขาแอตลาสของประเทศโมร็อกโก ซึ่งเป็นโครงการด้านสิ่งแวดล้อมระยะยาวที่สะท้อนให้เห็นการแสดงออกถึง ‘ความงามแห่งอนาคต’ โดยโครงการดังกล่าวมีการดำเนินการเชิงนวัตกรรม ซึ่งเริ่มต้นขึ้นในปี 2013 และได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้ ก่อให้เกิดพื้นที่เพื่อการเพาะปลูกและพื้นที่สำหรับการวิจัยทางพฤกษศาสตร์มากมายหลายแปลง ซึ่งให้ผลเชิงบวกต่อความหลากหลายทางชีวภาพ รวมพรรณไม้มากกว่า 200 ชนิดพันธุ์ ไว้ในที่เดียว
สวนอูริกาแบ่งเป็น 3  ส่วน โดยส่วนแรกมีแปลงปลูกหมด 64 แปลง ใช้สำหรับเพาะปลูกและเก็บเกี่ยวพืชเพื่อนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์ของ YSL Beauty ส่วนที่สองซึ่งเรียกกันว่า ‘แปลงรวบรวมพันธุ์พืช’ หรือ ‘Botanical Collection’ ทำหน้าที่เป็นพื้นที่ทดสอบสำหรับทดลองส่วนผสมใหม่ๆ ส่วนสุดท้ายคือส่วน ‘มรดก’ ซึ่งแสดงความเคารพต่อแบรนด์ รวมถึงความหลงใหลในบุปผชาติของเขา ผ่านการปลูกต้นไม้และดอกไม้ที่มีความสำคัญในประวัติศาสตร์ของแบรนด์ 12 ชนิด โดยรวมแล้วสวนแห่งนี้มีพรรณไม้มากกว่า 200 ชนิดพันธุ์ พร้อมด้วยห้องปฏิบัติการสำหรับการทดลองและสังเกตการณ์อีกหนึ่งห้อง เพื่อดำเนินการวิจัยและสร้างสรรค์นวัตกรรมสำหรับใช้ในผลิตภัณฑ์ของแบรนด์อย่างต่อเนื่อง 

ตั้งแต่โครงการนี้เริ่มต้นขึ้นในปี 2013 พื้นที่ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแห่งนี้ก็กลายเป็นถิ่นกำเนิดของผลผลิตอันน่าทึ่งนานาชนิด ไม่ว่าจะเป็นหญ้าฝรั่น (Saffron) ซึ่งออกดอกให้เก็บเกี่ยวเกสรอันล้ำค่าอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่การเปิดตัว OR Rouge ในปี 2013 ดอกดาวเรือง (Marigold) สำหรับ Touche Éclat ใบวอลนัต (Walnut Leaf) สำหรับชุดผลิตภัณฑ์ Top Secrets หรือทับทิม (Pomegranate) สำหรับ Rouge Volupté Shine รวมถึงรากไอริส (Iris) รากแมลโลว์ (Mallow) ดอกกระบองเพชรกินผลหรือบาร์บารีฟิก (Barbary Fig) และดอกกระบองเพชรพันธุ์มูนไลต์แคคตัส (Moonlight Cactus) ซึ่งเป็นส่วนผสมสำคัญของชุดผลิตภัณฑ์ Pure Shots มาตั้งแต่การเปิดตัวในปี 2018
“พืชทุกชนิดในสวนชุมชนอูริกาผ่านการคัดสรร เพาะปลูก และเก็บเกี่ยวโดยคำนึงถึง ความยั่งยืนเป็นสำคัญ ก่อนเข้าสู่กระบวนการสกัดอันพิถีพิถันภายใต้การควบคุมที่เคร่งครัดที่สุด เพื่อให้ได้ส่วนผสมคุณภาพดี ตรงตามมาตรฐานที่กำหนด” กาโรลีน แนเกรอ (Caroline Nègre) ผู้อำนวยการฝ่ายวิทยาการระดับนานาชาติของ YSL Beauty กล่าว
สวนชุมชนอูริกายังช่วยส่งเสริมความเป็นผู้ประกอบการและอิสรภาพทางการเงินแก่สตรีในท้องถิ่นผ่านโครงการเพื่อสังคมที่ไม่เคยมีมาก่อน มีความมุ่งมั่นส่งเสริมทักษะและฝีมือที่คนในชุมชนท้องถิ่นสืบทอดจากบรรพบุรุษ ขณะเดียวกันก็สร้างโอกาสในการทำงานให้กับสมาชิกสหกรณ์สตรี 32 คนตลอด 5 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการช่วยให้การทำงานของสตรีเหล่านี้พัฒนาและมีความหลากหลายมากขึ้นเพื่อส่งเสริมให้พวกเธอขยายขอบเขตทักษะของตนให้กว้างขึ้น ทั้งนี้ไม่เฉพาะแต่ทักษะการทำงานในสวนเท่านั้น แต่รวมไปถึงทักษะในการจัดการสถานเพาะชำ การขายธัญพืช ชาและบิสกิต หรือแม้กระทั่งการเปิดชั้นเรียนทำอาหารท้องถิ่นสำหรับนักท่องเที่ยว เพื่อสนับสนุนการทำงานนี้ YSL Beauty พยายามที่จะทำให้สตรีกลุ่มนี้มั่นใจว่าจะได้รับค่าตอบแทนที่เป็นธรรม ด้วยการรับประกันราคาขั้นต่ำโดยอิงราคาซื้อ พร้อมเงินโบนัสเพื่อจูงใจให้เกิดการพัฒนาตนเองอย่างยอดเยี่ยมต่อไป 

เนื่องในวันคุ้มครองโลก YSL Beauty เดินหน้าชู ‘สวนชุมชนอูริกา’ ตอกย้ำปณิธานความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมสะท้อนถึง ‘ความงามแห่งอนาคต’

ข่าวเด่นประเด็นร้อน

:::
ข่าวล่าสุด 最新消息icon
回到頁首icon
Loading