นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ติดตามผลการส่งออกผลไม้ของไทยไปตลาดโลก พบว่าท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวส่งผลให้การส่งออกสินค้าในภาพรวมของทั่วโลกหดตัวนั้น สินค้าผลไม้ของไทยยังคงครองความนิยมมียอดการส่งออกขยายตัวต่อเนื่อง สาเหตุหนึ่งมาจากพฤติกรรมผู้บริโภคปัจจุบันหันมาบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพมากขึ้น ประกอบกับผลไม้ไทยได้รับสิทธิประโยชน์ภายใต้เอฟทีเอช่วยลดและยกเลิกภาษีนำเข้าประเทศคู่ค้า ทำให้ผลไม้ไทยได้แต้มต่อและมีโอกาสแข่งขันมากขึ้น
สำหรับเอฟทีเอที่ไทยมีอยู่ในปัจจุบันมีผลให้ 6 ประเทศ ได้แก่ จีน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ชิลี เปรู และฮ่องกง ยกเลิกการเก็บภาษีศุลกากรนำเข้าผลไม้สดแช่เย็นแช่แข็งและผลไม้แห้งของไทยทุกรายการ ส่วนคู่เอฟทีเอที่เหลือ อาทิ เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินเดีย และมาเลเซีย ต่างทยอยลดเลิกภาษีนำเข้าผลไม้ส่วนใหญ่แล้วเช่นกัน คงเหลือการเก็บภาษีเพียงบางรายการเท่านั้น
ซึ่งส่งผลให้ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2562 (ม.ค.-ต.ค.) ไทยขยับอันดับจากประเทศผู้ส่งออกผลไม้จากอันดับ 10 ของโลกในปี 2561 เป็นผู้ส่งออกผลไม้อันดับ 6 ของโลก รองจากสเปน เนเธอร์แลนด์ เม็กซิโก สหรัฐอเมริกา และชิลี มีมูลค่าการส่งออกผลไม้สู่ตลาดโลกพุ่งสูงถึง 3,213 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เติบโตกว่าช่วงเดียวกันของปี 2561 ถึงร้อยละ 41 มีตลาดส่งออกหลัก ได้แก่ อาเซียน และจีน รวมมูลค่าการส่งออกผลไม้ไทยไปอาเซียนและจีนมีมูลค่าสูงถึง 2,690 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือร้อยละ 84 ของการส่งออกผลไม้ไทยไปตลาดโลก
ผลไม้ไทยที่กำลังเนื้อหอม คือ กลุ่มผลไม้เมืองร้อน เช่น ทุเรียน มังคุด ลำไย ซึ่งไทยครองความเป็นผู้นำการส่งออกอันดับหนึ่งของโลกอีกด้วย
ข้อมูลข่าวจาก สำนักข่าวไทย