เมื่อวันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา สำนักงานเกษตรและอาหาร สภาการเกษตรไต้หวัน (農業委員會農糧署) ได้ลงนามความร่วมมือกับเมืองคาซามะ จังหวัดจังหวัดอิบารากิ ประเทศญี่ปุ่น โดยเมืองคาซามะจะนำเข้ากล้วยหอมจากไต้หวันจำนวน 18 ตัน ในเดือนพ.ย.นี้ เพื่อเป็นผลไม้สำหรับมื้อกลางวันของนักเรียนชั้นประถมและมัธยมศึกษา รวมทั้งขายที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตในเมืองด้วย
สภาการเกษตรไต้หวันได้ลงนามความร่วมมือ “การเสริมสร้างความเข้มแข็งด้านอาหารและการพัฒนาแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม” กับเมืองคาซามะ จังหวัดจังหวัดอิบารากิ สำนักงานเกษตรและอาหารกล่าวว่า เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบปีแรกของการก่อตั้งสำนักงานตัวแทนของเมืองคาซามะในไต้หวัน นาย Yamaguchi Nokiนายกเทศมนตรีเมืองคาซามะและคณะผู้แทนเดินทางมาแลกเปลี่ยนที่ไต้หวันพร้อมลงนามความร่วมมือดังกล่าว โดยมีเนื้อหารวมถึงการเสริมสร้างความเข้มแข็งในการจัดหาสินค้าเกษตร การแลกเปลี่ยนบุคลากร และการประชาสัมพันธ์ด้านการเกษตร
นายหู๋ จงอี (胡忠一) ผู้อำนวยการสำนักงานเกษตรและอาหารกล่าวว่า ตั้งแต่เดือนพ.ย.ของปีนี้ เมืองคาซามะ และเมืองใกล้เคียงอย่างเมืองมิโตะและเมืองโอไรจะนำเข้ากล้วยหอมจากไต้หวัน 18 ตัน ทุกปี เพื่อเป็นผลไม้สำหรับมื้อกลางวันของนักเรียนชั้นประถมและมัธยมศึกษา รวมทั้งขายที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตรายใหญ่ที่สุดในเมืองด้วย สำนักงานเกษตรและอาหารกล่าวอีกว่า เพื่อให้ผู้บริโภคชาวญี่ปุ่นรู้จักกล้วยไต้หวันอีกครั้ง ตั้งแต่ปี 2016 ไต้หวันได้เริ่มขายกล้วยหอมให้หลายจังหวัดหลายเมืองในญี่ปุ่น เพื่อเป็นผลไม้อาหารกลางวันสำหรับนักเรียน
นายหู๋ จงอีระบุว่า เมืองคาซามะเป็นหนึ่งในสถานที่สำหรับการแข่งขันกอล์ฟของการแข่งขันกีฬาโอลิมปิคกรุงโตเกียว 2020 ซึ่งจะมีนักกีฬาจากต่างประเทศเป็นจำนวนมาก จึงหวังที่จะใช้โอกาสที่มีการลงนามความร่วมมือในครั้งนี้ เพื่อโปรโมทผลิตภัณฑ์การเกษตรของไต้หวันสู่นักกีฬาที่เข้าร่วมการแข่งขันด้วย
สำนักข่าว Liberty Times รายงานว่า นาย Yamaguchi Nokiนายกเทศมนตรีเมืองคาซามะกล่าวว่า สาเหตุที่เลือกนำเข้ากล้วยหอมจากไต้หวันเพราะว่ามีรสชาติดี โดยตัวเค้าจะช่วยโปรโมทกล้วยหอมไต้หวันด้วย และหวังว่าจะมีการขยายความร่วมมือระหว่างเมืองคาซามะและไต้หวันในอนาคตต่อ