ศูนย์บัญชาการกลางป้องกันโรคระบาด รายงานสถานการณ์ COVID-19 ประจำวันที่ 15 พฤษภาคม พบผู้ป่วยยืนยันเพิ่ม 185 ราย แบ่งเป็นภายในประเทศ 180 ราย และ เดินทางเข้ามาจากต่างประเทศ 5 ราย
ศูนย์บัญชากลางกล่าวว่า ผู้ป่วยยืนยัน 180 รายภายในประเทศในวันนี้เป็นชาย 68 คน หญิง 112 คน พักอาศัยอยู่ในเมืองไทเป 89 ราย เมืองนิวไทเป 75 ราย เมืองจางฮว่า 6 ราย เมืองอี๋หลานกับเถาหยวนเมืองละ 4 ราย เมืองไถจงและเมืองจีหลงเมืองละ 1 ราย รายละเอียดเพิ่มเติมอยู่ในระหว่างการสืบสวนอยู่
ศูนย์บัญชากลางยังกล่าวอีกว่า ผู้ป่วยยืนยันที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 5 รายในวันนี้เป็นชาย 3 คน หญิง 2 คน มาจากประเทศฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย อเมริกา และเวียดนาม โดยเดินทางเข้ามาในประเทศตั้งแต่ช่วงวันที่ 7 มีนาคม ถึงวันที่ 12 พฤษภาคม โดยทั้งหมดล้วนมีเอกสารแสดงการตรวจเชื้อ 72 ชั่วโมงก่อนการเดินทาง โดยแสดงอาการตั้งแต่ช่วงวันที่ 2 ถึง 13 พฤษภาคม
นอกจากนี้ ศูนย์บัญชาการกลางป้องกันโรคระบาดยังได้กล่าวอีกว่า เพื่อตอบสนองต่อการแพร่ระบาดของ COVID-19 ในประเทศที่ทวีความรุนแรงขึ้นในปัจจุบัน พื้นที่เมืองไทเปและนิวไทเปที่มีการแพร่กระจายที่ไม่ทราบแหล่งที่มาของการติดเชื้อและเหตุการณ์การแพร่กระจายในชุมชน จากการประเมินการได้คาดการว่าได้มีโอกาสในการแพร่กระจายออกไปเป็นวงกว้างแล้ว จึงได้ยกระดับการป้องกันโรคระบาดเป็นระดับ 3 ขึ้นตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 28 พฤษภาคม โดยจะกวดขันและเพิ่มมาตรการที่เข้มงวดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของชุมชนขนาดใหญ่โดยมีมาตรการดังนี้:
มาตรการระดับชาติ:
1.ปิดสถานบันเทิงรวมทั้งห้องคาราโอเกะ ห้องเต้นรำ ไนต์คลับ คลับร้านอาหาร บาร์ โรงแรม และสถานที่อื่นที่คล้ายคลึงกัน
2.งดจัดกิจกรรมทางศาสนา รวมทั้งกิจกรรมการเดินขบวนต่าง ๆ
3.โรงเรียนประถมฯและมัธยมฯ ห้ามบุคคลภายนอกเข้า
4.ยุติการส่งมอบกิจกรรมของสมาคมต่าง ๆ
มาตรการสำหรับเมืองที่มีการยกระดับการป้องกันเป็นระดับ 3 (เมืองไทเป และ เมืองนิวไทเป) (ตั้งแต่วันที่ 15-28 พฤษภาคม):
1.นอกจากการปิดสถานบันเทิงแล้ว ยังรวมถึงสถานที่สำหรับชมนิทรรศการและการแข่งขัน รวมถึงโรงภาพยนตร์ สถานที่จัดนิทรรศการและสถานที่ที่คล้ายคลึงกัน
2.หากจำเป็นต้องออกจากบ้านต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา
3.หากไม่มีความจำเป็น ควรงดออกนอกบ้านหรือไปทำกิจกรรมต่าง ๆ
4.ห้ามรวมกลุ่มเกิน 5 คนในห้อง และเกิน 10 คนในสถานที่กลางแจ้ง
5.ติดตามสถานการณ์ด้านสุขภาพของตัวเอง หากมีอาการให้ไปเข้ารับการรักษา
6.สถานที่ทางธุรกิจและหน่วยงานสาธารณะ ควรมีมาตรการในการยืนยันตัวตน สวมหน้ากากอนามัยและการรักษาระยะห่างทางสังคม
7. สถานที่ทำงานควรปฏิบัติตามกฎระเบียบการป้องกันการแพร่ระบาดขององค์กร
8.เริ่มมาตรการตอบสนองการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องของบริษัท เช่น การทำงานออนไลน์หรือการจัดสรรเวลาที่ยืดหยุ่นในการทำงาน
9.สถานประกอบการจัดเลี้ยง ควรปฏิบัติตามมาตรการต่อต้านการแพร่ระบาดเช่น การเว้นระยะห่างทางสังคม การติดตั้งฉากกั้น หากไม่สามารถปฏิบัติได้กรุณาสั่งกลับบ้าน
10.การแต่งงานและงานศพควรใช้ระบบยืนยันตัวตนและเว้นระยะห่างทางสังคม และเสริมสร้างการรักษาความสะอาด
11.เสริมสร้างการรักษาความสะอาดในพื้นที่สาธารณะและระบบขนส่งสาธารณะ
ศูนย์บัญชากลางยังกล่าวอีกว่า นอกจากนโยบายข้างต้นแล้ว นอกจากนี้ยังจะคอยสนับสนุนการเตรียมความพร้อมของระบบการแพทย์ในพื้นที่ระดับ 3 ซึ่งรวมถึงการขยายการจัดตั้งหอผู้ป่วยเฉพาะ การเปลี่ยนห้องโดยสารย่อย การตั้งสถานีคัดกรองกลางแจ้งสำหรับการตรวจเชื้อ การขยายขีดความสามารถในการคัดกรองของเขตว่านหัวในเมืองไทเปให้กว้างขวางขึ้น รวมทั้งการใช้ telemedicine ในคลินิกผู้ป่วยนอกและอื่น ๆ โดยศูนย์บัญชาการยังเรียกร้องให้บุคลากรในพื้นที่แจ้งเตือนระดับที่ 2 และ 3 ควรงดออกนอกบ้านหรือไปทำกิจกรรมต่าง ๆ หากไม่มีความจำเป็น
ศูนย์บัญชาการเรียกร้องให้ประชาชนใช้มาตรการป้องกันส่วนบุคคล เช่น การล้างมือให้สะอาด การมีมารยาทในการไอและการสวมหน้ากากอนามัย เพื่อลดการเคลื่อนไหว กิจกรรมหรือการชุมนุมที่ไม่จำเป็น หลีกเลี่ยงการเข้าและออกจากสถานที่แออัด หรือบริเวณที่มีความเสี่ยงสูงต่อการแพร่เชื้อ และให้ความร่วมมืออย่างจริงจังกับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดต่าง ๆ