img
:::

สถานทูตไทยในต่างประเทศ ออกประกาศรายงานสถานการณ์พร้อมแนะนำคนไทยปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

สถานทูตไทยในต่างประเทศ ออกประกาศรายงานสถานการณ์พร้อมแนะนำคนไทยปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

สถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ของไทยในต่างประเทศหลายแห่ง ออกประกาศรายงานสถานการณ์และคำแนะนำในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ให้กับคนไทยที่อยู่ในต่างประเทศได้รับทราบอย่างต่อเนื่อง หลังจากหลายประเทศ มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่ม อาทิ 

สถานกงสุลใหญ่  เมืองเจดดาห์ รายงานว่า แม้ยังไม่พบผู้ติดเชื้อในประเทศซาอุดิอาระเบีย แต่มีชาวซาอุฯ ติดเชื้อในคูเวต และบาห์เรน ซึ่งเป็นผู้ที่พึ่งเดินทางไปอิหร่าน จึงออกประกาศยกเลิกการตรวจลงตราประเภทการแสวงบุญอุมเราะห์และการเยี่ยมมัสยิดนบี ที่เมืองมาดีนะห์ เป็นการชั่วคราว รวมทั้งยกเลิกการตรวจลงตราประเภทท่องเที่ยวเป็นการชั่วคราว สำหรับประเทศที่มีการยืนยันการแพร่ระบาด ซึ่งรวมถึงประเทศไทยด้วย โดยมาตรการเหล่านี้ ยังไม่รวมถึงการตรวจลงตราให้แก่ผู้แสวงบุญฮัจย์ ซึ่งจะเริ่มในช่วงเดือนก.ค.นี้ 

ด้านสถานเอกอัครราชทูต  กรุงมานามา รายงานว่า ประเทศบาห์เรน ยังคงมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่ม โดยคนไทยที่ประสงค์เดินทางกลับไทย หรือไม่มีกิจธุระจำเป็น ยังคงสามารถเดินทางกลับได้ โดยสายการบิน Gulf Air, Oman Air, Etihad ส่วนสายการบินอื่น งดบิน เพราะมีประกาศห้ามคนต่างชาติ รวมถึงคนไทยเข้าประเทศ ส่วนผู้โดยสารที่เดินทางมาจากไทยและมีถิ่นพำนักในบาห์เรน จะมีขั้นตอนการตรวจคัดกรองโรคตั้งแต่ลงจากเครื่อง ซึ่งอาจใช้เวลา 5-6 ชั่วโมง และต้องกักตัวเองอยู่ในที่พักอาศัยแยกจากผู้อื่นเป็นเวลา 14 วัน

ส่วนสถานเอกอัครราชทูต  กรุงอาบูดาบี รายงานว่า สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือยูเออี พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม โดยเป็นคนชาติอิหร่าน จีน และบาห์เรน จึงมีการยกเลิกการแข่งขันจักรยาน แต่ยังไม่มีคำสั่งห้ามชาวต่างชาติเดินทางเข้า-ออกยูเออี โดยคนไทย ยังสามารถเดินทางได้ แต่ตรวจคนเข้าเมืองยูเออี อาจมีการสอบถาม แจ้งข้อมูล หรือขอตรวจสอบเที่ยวบินของผู้ที่จะเดินทางไปประเทศไทย 

ขณะที่ สถานเอกอัครราชทูต  กรุงปารีส รายงานว่า มีแนวโน้มผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น เนื่องจาก ไม่สามารถตรวจสอบเส้นทางการเดินทางและการติดต่อของผู้ป่วยที่เสียชีวิตไปแล้วทั้งหมด โดยยังคงไม่มีมาตรการห้ามผู้เดินทางเข้าประเทศ แต่เพิ่มอิหร่านในรายชื่อกลุ่มประเทศต้นทางที่ผู้เดินทางต้องกักบริเวณตนเองเป็นเวลา 14 วัน หลังเดินทางมาถึงฝรั่งเศส 

ส่วนสถานเอกอัครราชทูต  กรุงบาซิเลีย รายงานว่า หลังจากทางการบราซิล ยืนยันมีผู้ติดเชื้อรายแรก เมื่อวันที่ 26 ก.พ.ที่ผ่านมา ทางสถานเอกอัครราชทูตฯ ขอให้คนไทยในบราซิล และประเทศในเขตอาณา ใช้ความระมัดระวังและป้องกันตัวเองจากโรคดังกล่าว โดยให้ปฎิบัติตามแนวทางขององค์การอนามัยโลก ด้วยการล้างมือด้วยสบู่ หรือเจลล้างมือฆ่าเชื้อเป็นประจำ ปิดปาก ปิดจมูก เวลาไอและจามด้วยผ้า หรือกระดาษเช็ดปาก และนำไปทิ้งในถังขยะทันที หลีกเลี่ยงการนำมือไปสัมผัสดวงตา จมูก และปาก หลีกเลี่ยงสถานที่ที่คนพุกพล่าน และสวมใส่หน้ากากอนามัยอยู่เสมอ ซึ่งข้อปฏิบัติเหล่านี้ สถานทูตไทยอีกหลายแห่ง ได้แนะนำให้คนไทยในต่างประเทศ ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดแล้ว

ข้อมูลข่าวจาก กรมประชาสัมพันธ์

 

มาเป็นคนแรกที่แสดงความคิดเห็น

ข่าวเด่นประเด็นร้อน

ข่าวล่าสุด 最新消息icon
回到頁首icon
Loading