เมื่อวันที่ 31 มีนาคม มี "ผู้ป่วยรายใหม่ 6 ราย" จากสหรัฐอเมริกา เมียนมาร์ อินโดนีเซีย เอธิโอเปีย และบังกลาเทศ ได้เดินทางเข้ามาในประเทศ

ศูนย์บัญชาการการแพร่ระบาดกลางประกาศเมื่อวันที่ 31 มีนาคม ว่าพบผู้ป่วยโควิด -19 ที่เดินทางมาจากต่างประเทศได้รับการยืนยันใหม่จำนวน 6 ราย ที่ จากสหรัฐอเมริกา (เคสที่ 1026), เมียนมาร์ (เคสที่ 1027), อินโดนีเซีย (เคสที่1028 และ 1029), เอธิโอเปีย (เคสที่ 1030 ) และบังกลาเทศ (เคสที่ 1031)

ศูนย์บัญชาการระบุว่าเคสที่ 1026 เป็นชายชาวไต้หวันวัย 70 กว่าปี อาศัยระยะยาวที่สหรัฐอเมริกา เค้าได้เดินทางกลับไต้หวันเมื่อวันที่ 3 มกราคม โดยถือรายงานผลการทดสอบเชิงลบภายใน 3 วันก่อนขึ้นเครื่อง และกักตัวอยู่ที่บ้านหลังจากมาถึง กรณีนี้ไม่มีอาการขณะอยู่ที่ไต้หวันเมื่อวันที่ 29 มีนาคมเนื่องจากจำเป็นต้องเดินทางออกนอกประเทศเขาจึงไปตรวจที่โรงพยาบาลโดยออกค่าใช้จ่ายเอง ผลวินิจฉัยเมื่อวันที่ 31 มีนาคม (ค่า Ct 31  ค่า Ct 36 ผลของวันถัดไปคือ แอนติบอดีในซีรัม IgM, IgG เป็นบวกทั้งคู่)

มีการระบุผู้ติดต่อทั้งหมด 53 รายโดยมีรายชื่ออยู่ในการแยกบ้าน 12 คน มีรายชื่ออยู่ในการจัดการด้านสุขภาพที่เป็นอิสระ  41 คน  ได้รับการทดสอบโดย PCR 17 รายเป็นลบโดย PCR 48 คน ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างการทดสอบ PCR และซีรั่มแอนติบอดี

ศูนย์บัญชาการชี้ว่าเคสที่1027 เป็นชาวประมงชายชาวพม่าในวัย 30 ปี ที่เข้ามาทำงานในไต้หวันเมื่อวันที่ 14 มีนาคมโดยมีรายงานผลการทดสอบเชิงลบภายใน 3 วันก่อนขึ้นเครื่อง และทำการกักตัวที่ห้องพักหลังจากเดินทางเข้าประเทศ หลังจากหมดระยะเวลากักกันในวันที่ 29 มีนาคมทาง บริษัท จะจัดเคสไปยังโรงพยาบาลเพื่อทำการตรวจโดยออกค่าใช้จ่ายเอง การวินิจฉัยได้รับการยืนยันเมื่อวันที่ 31 มีนาคม (ค่า Ct 35 กำลังดำเนินการทดสอบแอนติบอดีในซีรัม) กรณีนี้ไม่มีอาการในระหว่างที่เขาอยู่ในไต้หวัน มีระบุผู้ติดต่อทั้งหมด 3 รายโดย อยู่ในการแยกบ้าน2ราย และอยู่ในการจัดการด้านสุขภาพที่เป็นอิสระ  1 ราย

ศูนย์บัญชาการระบุว่าทั้ง 2 เคส 1028 และ 1029 เป็นชาวประมงชายชาวอินโดนีเซียในวัย 20 ปี ผู้ที่เข้ามาทำงานในไต้หวันในวันที่ 4 มีนาคม ทุกคนมีรายงานผลการทดสอบเชิงลบภายใน 3 วันก่อนการบิน พวกเขาไปที่ด่านกักกันส่วนกลางเพื่อทำการกักตัวหลังจากเข้าประเทศ ก่อนจะสิ้นสุดระยะเวลากักตัวในวันที่ 17 มีนาคม และผลลัพธ์ทั้งหมดเป็นลบ

หลังจากสิ้นสุดระยะเวลาการกักตัวแล้วพวกเขาจะต้องไปที่อยู่อาศัยอื่น  เพื่อการจัดการด้านสุขภาพที่เป็นอิสระ เมื่อวันที่ 24 มีนาคม ได้นั่งรถพิเศษไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจร่างกายด้วยตนเอง ผลการตรวจ เป็นลบเนื่องจาก 5 คนในกลุ่มเดียวกันได้รับการวินิจฉัย (เคสที่ 1015 ถึง 1019) พวกเขาจึงถูกย้ายไปกักตัวที่บ้าน จากนั้นเมื่อวันที่ 29 มีนาคม บริษัท นัดไปโรงพยาบาลเพื่อทำการตรวจด้วยค่าใช้จ่ายของตัวเองและการวินิจฉัยได้รับการยืนยันในวันที่ 31 มีนาคม (ค่า Ct เท่ากับ 34 และ 31 ตามลำดับและอยู่ระหว่างการทดสอบแอนติบอดีในซีรัม) ทั้งสองคนไม่มีอาการระหว่างที่อยู่ในไต้หวันและมีการติดต่อกันทั้งหมด 6 คน ในจำนวนนี้ 4 คนอยู่ในการแยกบ้านและ 2 คนอยู่ในการจัดการด้านสุขภาพที่เป็นอิสระ

ศูนย์บัญชาการชี้ให้เห็นว่าเคสที่ 1030 เป็นชายชาวไต้หวันในวัย 20 ปี เค้าทำงานในเอธิโอเปียในเดือนตุลาคม 2563 และเดินทางกลับไต้หวันในวันที่ 28 มีนาคม 2564 โดยมีรายงานการทดสอบเชิงลบภายใน 3 วันก่อนการบิน เมื่อเดินทางเข้าประเทศยังไม่มีอาการใดๆ เช่นอาการไอ กลิ่นและรสผิดปกติในต่างประเทศ การตรวจสอบการเข้าประเทศเป็นผลลบ

หลังจากเข้าประเทศแล้วกรณีนี้ถูกตัวไว้ที่สถานีกักกันส่วนกลางโดยได้รับการตรวจสอบอีกครั้งในวันที่ 30 มีนาคม และได้รับการยืนยันในวันที่ 31 มีนาคม (ค่า Ct 31 อยู่ระหว่างการทดสอบแอนติบอดีในซีรัม) มีการระบุผู้ติดต่อทั้งหมด 17 ราย ในจำนวนนี้ ระบุว่าเป็นการแยกบ้าน5 ราย และการจัดการด้านสุขภาพที่เป็นอิสระ 12 ราย

ศูนย์บัญชาการระบุว่าเคสที่ 1031 เป็นผู้หญิงชาวบังกลาเทศอายุ 20 ปี เดินทางมาศึกษาที่ไต้หวันในวันที่ 26 มีนาคม จัดทำรายงานผลการทดสอบเชิงลบภายใน 3 วันก่อนออกเดินทาง และ ทำการกักตัวที่บ้านหลังจากเดินทางเข้าประเทศ เธอเกิดอาการไอเมื่อวันที่ 28 มีนาคม หน่วยสุขภาพได้นัดตรวจสุขภาพและยืนยันการวินิจฉัยในวันที่ 31 มีนาคม (ค่า Ct 18)

มีการระบุผู้ติดต่อทั้งหมด 10 ราย ในจำนวนนี้ ระบุว่าเป็นการแยกบ้าน 8 รายและอีก 2 รายระบุว่าเป็นการจัดการด้านสุขภาพที่เป็นอิสระ

ตามสถิติของศูนย์บัญชาการมีการแจ้งเตือนทั้งหมด 189,458 รายการ เกี่ยวกับโรค โคโรนาไวรัสในจีนจนถึงขณะนี้ (รวม 187,640 ราย) ในจำนวนนี้ได้รับการยืนยัน 1,030 ราย ผู้อพยพไปต่างประเทศ 914 ราย กรณีในพื้นที่ 77 ราย กองเรือ Dunmu 36 ราย กรณีการติดเชื้อในเครื่องบิน 2 ราย และไม่ทราบจำนวน 1 ราย ส่วนอีกกรณี (เคสที่ 530) ถูกลบออกเป็นหมายเลขว่าง ในจำนวนผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันเสียชีวิต 10 ราย 981 รายได้รับการปล่อยตัวจากการกักตัว และ 39 รายถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแยกตัวต่างหาก