เพื่อตอบโต้รายงานข่าวของสำนักข่าวแอปเปิดเดลี่ที่กล่าวว่านโยบายมุ่งใต้ใหม่ของรัฐบาลไม่ได้ผล เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา สำนักงานเจรจาเศรษฐกิจและการค้า สภาบริหารไต้หวันกล่าวว่า นโยบายมุ่งใต้ใหม่เป็นหนึ่งในนโยบายการต่างประเทศที่สำคัญของรัฐบาล และเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการพัฒนาไต้หวันในอนาคต โดยเป็นการสร้างรูปแบบความร่วมมือแบบ win-win ที่เป็นประโยชน์ร่วมกันระหว่างไต้หวันและพันธมิตรประเทศในนโยบายมุ่งใต้ใหม่
สำนักงานเจรจาเศรษฐกิจและการค้าชี้ให้เห็นว่า ตั้งแต่จุดเริ่มต้นของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีนในปี 2018 ก็ทำให้ห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกได้มีการปรับโครงสร้างใหม่ ซึ่งนโยบายมุ่งใต้ใหม่ของไต้หวัน ไม่เพียงแต่ตอบสนองต่อโครงสร้างทางการเมืองและเศรษฐกิจใหม่ของเอเชีย และวิสัยทัศน์ระดับภูมิภาคสำหรับแต่ละประเทศ เช่น "ยุทธศาสตร์อินโดแปซิฟิก" ที่เสนอโดยประเทศต่าง ๆ เช่น สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น ซึ่งมีโอกาสในการร่วมมือกับประเทศต่างๆ พิสูจน์ได้อย่างเต็มที่ว่าทิศทางของนโยบายมุ่งใต้ใหม่นั้นมาถูกทางแล้ว
สำนักงานเจรจาเศรษฐกิจและการค้ากล่าวว่า นโยบายมุ่งใต้ใหม่เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์การต่างประเทศโดยรวมของประเทศ นอกเหนือจากเศรษฐกิจและการค้าแล้ว ยังมีงานด้านอื่นๆ อีกหลายด้าน หลังที่มีการผลักดันนโยบายดังกล่าวมาได้ 3 ปี ด้วยความพยายามร่วมกันของประชาชนและรัฐบาล ก็ได้เริ่มแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพอย่างค่อยเป็นค่อยไปผ่านการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ด้านการแพทย์ การเกษตร การท่องเที่ยววิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และวัฒนธรรม เป็นการแสดงพลังอันนุ่มนวลของไต้หวัน (Soft Power) และกระชับความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างไต้หวันและพันธมิตรประเทศในนโยบายมุ่งใต้ใหม่
สำนักงานเจรจาเศรษฐกิจและการค้ากล่าวว่า การดำเนินการตามนโยบายมุ่งใต้ใหม่มีผลบังคับใช้จนถึงปัจจุบัน โดยความสำเร็จในไตรมาสที่สามของปีนี้ (2019) ยกตัวอย่างเช่น ในด้านการท่องเที่ยว มีจำนวนนักท่องเที่ยวจากประเทศในนโยบายมุ่งใต้ใหม่เดินทางมาท่องเที่ยวที่ไต้หวันกว่า 1.9 ล้านคน ส่วนผู้ผลิตในประเทศที่ได้รับใบรับรองฮาลาลมีทั้งหมด 1,082 ราย ในแง่ของอีคอมเมิร์ซมีการเพิ่มสินค้ามากกว่า 277,000 รายการในแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซของไต้หวันในประเทศในนโยบายมุ่งใต้ใหม่ (อีเบย์ในออสเตรเลีย, blibli ในอินโดนีเซีย, TIKI ในเวียดนาม และพีซีโฮมในไทย)
ในแง่ของการส่งออกทางทางวิศวกรรม บริษัทไต้หวันได้รับการเสนอราคาจากโครงการในต่างประเทศเป็นจำนวนเงินรวมประมาณ 23.4 พันล้านเหรียญไต้หวัน ส่วนการแลกเปลี่ยนนักเรียนนักศึกษา เมื่อปีที่แล้วมีนักศึกษาจากประเทศในนโยบายมุ่งใต้ใหม่เดินทางมาศึกษาเล่าเรียนที่ไต้หวันเกือบ 52,000 คน เพิ่มขึ้น 25% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้านี้ ส่วนนักนักเรียนนักศึกษาไต้หวันเดินทางไปศึกษาเล่าเรียนที่ประเทศในนโยบายมุ่งใต้ใหม่มีจำนวนเกิน 21,000 คน เป็นครั้งแรกด้วย
ในด้านการให้บริการทางการแพทย์ระหว่างประเทศ (การเข้ารับการตรวจสุขภาพโดยเสียค่าใช้จ่ายด้วยตนเองไม่มีประกันสุขภาพ) หากนับจนถึงสิ้นเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา ไต้หวันมีจำนวนมีผู้ป่วยจากประเทศในนโยบายมุ่งใต้ใหม่ราว 67,000 คน คิดเป็น 37.9% ของผู้ป่วยต่างชาติทั้งหมด นอกจากนี้ รัฐบาลยังเจรจาและปรับปรุงข้อตกลงการคุ้มครองการลงทุนทวิภาคีอย่างแข็งขันเพื่อเพิ่มความคุ้มครองของนักธุรกิจชาวไต้หวันด้วย
สำนักงานเจรจาเศรษฐกิจและการค้ากล่าวว่า งานที่สำคัญของนโยบายมุ่งใต้ใหม่ในขั้นต่อไปได้แก่ การช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ในประเทศบุกตลาดประเทศในนโยบายมุ่งใต้ใหม่ การให้ทุนการศึกษาแก่นักศึกษาจากวิทยาลัยและมหาวิทยาลัย เพื่อเรียนรู้และสัมผัสประสบการณ์การทำงานกับบริษัทที่ประเทศในนโยบายมุ่งใต้ใหม่ ส่งเสริมการส่งออกสินค้าเกษตร เพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวจากประเทศในนโยบายมุ่งใต้ใหม่ให้เดินทางมาไต้หวัน ส่งเสริมด้านการแพทย์กับประเทศในนโยบายมุ่งใต้ใหม่ ช่วยเหลือบริษัทวิศวกรรมในประเทศให้มีโอกาสได้งานจากประเทศในนโยบายมุ่งใต้ใหม่ และช่วยเหลือผู้ผลิตชาวไต้หวันในการเข้าไปลงทุนและทำการค้าในตลาดประเทศในโยบายมุ่งใต้ใหม่ เป็นต้น รัฐบาลจะรักษาเจตนารมณ์ของไต้หวันในการให้ความช่วยเหลือเอเชีย และเอเชียช่วยเหลือไต้หวัน และจะดำเนินการตามนโยบายมุ่งใต้ใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยไต้หวันและประเทศในนโยบายมุ่งใต้ใหม่มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
