นักศึกษาพยาบาล จากมหาวิทยาลัยฉือจี้ไต้หวัน จำนวน 18 คน เดินทางมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับมหาวิทยาลัยในไทย ทุกคนต่างตั้งใจศึกษาหาประสบการณ์ด้วยความกระตือรือร้น ขณะเดียวกัน ยังได้มาร่วมเป็นจิตอาสา ในคลินิกเวชกรรมพุทธฉือจี้ ช่วยอำนายความสะดวกให้บุคลากรทางการแพทย์ พร้อมทั้งอาศัยความคิดสร้างสรรค์ จัดกิจกรรมการเรียนรู้สำหรับเด็ก เพื่อช่วยดูแลบุตรหลานให้บรรดาผู้ป่วยที่มารอรับการรักษา
นักศึกษาพยาบาลไต้หวัน ร่วมเป็นจิตอาสา ในคลินิกเวชกรรมพุทธฉือจี้ ประเทศไทย ภาพ/นำมาจาก 大愛新聞
อ่านข่าวเพิ่มเติม : ประกาศผลการประกวดรางวัลวรรณกรรมผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่และแรงงานต่างชาติครั้งที่ 8 ประจำปี 2023
หลังจากบรรดานักศึกษาได้รับมอบภารกิจ ทุกคนต่างทุ่มเทแรงกายแรงใจศึกษาหาข้อมูล จัดทำโปสเตอร์ให้ความรู้รณรงค์เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพเบื้องต้น พร้อมทั้งจัดกิจกรรมการเรียนรู้สำหรับเด็ก ช่วยดูแลบุตรหลานให้กับผู้ป่วยที่มารับบริการตรวจรักษาโรคในคลินิก แม้จะแตกต่างด้านภาษา แต่ด้วยรอยยิ้มและความเป็นกันเอง ทำให้ทุกคนสามารถใช้ใจสื่อสารกันได้อย่างรวดเร็ว วันนี้เหล่านักศึกษาต้องดูแลเด็กๆ ตั้งแต่อายุ 2-10 ขวบ ความแตกต่างทางวัย ก็เป็นอีกหนึ่งในความท้าทาย ที่ทุกคนต้องช่วยกันคิดหากิจกรรม จนได้ค้นพบศักยภาพอีกด้านที่ซ่อนอยู่ของตัวเอง เมื่อเล่นกันไปสักพัก ก็ถึงเวลากินของว่าง เหล่านักศึกษาจิตอาสาจึงพาเด็กๆ ไปล้างมือ โดยอธิบายด้วยภาษาอังกฤษและสาธิตให้เห็นเป็นแบบอย่าง เด็กๆ ต่างตั้งใจดูและตั้งใจปฏิบัติตามอย่างเต็มที่
เจิ้งเจียฟาง นักศึกษาจิตอาสา บอกเล่าความรู้สึกของตนเองในวันนี้ ที่ได้มาร่วมดูแลเด็กๆ ว่า “รู้สึกดีใจมาก ที่ได้มีโอกาสมาช่วยดูแลน้องๆ ทำให้ระหว่างรอ เด็กๆ ได้เล่นและเรียนรู้อย่างสนุกสนาน ส่วนผู้ปกครองเองก็สามารถไปพบคุณหมอได้อย่างวางใจ นอกจากการเล่นแล้ว เราก็พยายามสอดแทรกความรู้พื้นฐานด้วยการทำโปสเตอร์มาให้น้องๆ ได้เห็นภาพเกี่ยวกับวิธีการล้างมือที่ถูกต้อง เพื่อกลับไปดูแลสุขอนามัยของตัวเองต่อไปค่ะ”
อ่านข่าวเพิ่มเติม : เปิดตัวกลไกการประเมินภาษาผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ เพื่อสืบทอดภาษาแม่และสร้างความเป็นเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมต่อไป
นักศึกษาพยาบาลไต้หวัน ร่วมเป็นจิตอาสา ในคลินิกเวชกรรมพุทธฉือจี้ ประเทศไทย ภาพ/นำมาจาก 大愛新聞
อาจารย์ไช่เจวียนซิ่ว จากคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยฉือจี้ ได้บอกเล่าถึงสิ่งที่นักศึกษาได้เรียนรู้จากประสบการณ์การเป็นจิตอาสาในครั้งนี้ว่า “ในระหว่างเป็นจิตอาสา แม้จะมีช่องว่างทางภาษา แต่นักศึกษาต่างก็ตระหนักดีว่า สามารถใช้หัวใจและรอยยิ้มเป็นสื่อกลางในการสื่อสารกันได้ นี่เป็นสิ่งที่พวกเขาได้เรียนรู้จากการลงมือปฏิบัติจริงนอกห้องเรียนค่ะ”
“รมา” หนึ่งในผู้ป่วยที่หอบลูกเล็กวัยเพียง 3 เดือนกับ 4 ขวบ มาพบหมอ เพราะมีอาการไอ ขึ้นรถโดยสารที่ฉือจี้จัดไว้คอยบริการรับส่งฟรี เดินทางมาพบหมอที่คลินิกตามลำพังตั้งแต่เช้าตรู่ จนได้รับคิวที่ 6 เดิมทีเธอเคยวิตกกังวลว่า ตนเองจะต้องวุ่นวายกับการดูแลลูกๆ ตัวน้อยตามลำพัง แต่เมื่อมีนักศึกษาจิตอาสาคอยช่วยแบ่งเบาภาระ ทำให้การพบหมอครั้งนี้ ดำเนินไปอย่างราบรื่น รมากล่าวว่า “วันนี้คุณหมอจ่ายยาให้กลับไปกินที่บ้าน โดยไม่ต้องเสียเงินเลย แถมยังมีคนคอยช่วยเป็นเพื่อนเล่นให้กับลูกด้วย ทำให้รู้สึกดีใจมาก ขอบคุณทุกคนที่ช่วยเหลือครอบครัวของเราค่ะ”
คุณหมอให้การตรวจรักษาด้วยความเอาใจใส่ รับฟังคำบอกเล่าอาการไม่สบายของผู้ป่วย นอกจากจ่ายยารักษา ยังแนะนำวิธีการดูแลสุขภาพ เพราะการป้องกันย่อมดีกว่าการแก้ไข เพื่อให้ทุกคนมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ปราศจากโรคภัย