พิพิธภัณฑ์แห่งชาติไต้หวันได้เชิญบุตรผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่มาค้างคืนที่พิพิธภัณฑ์ และจัดกิจกรรมสุดพิเศษ ทำให้บรรยกาศแตกต่างไปจากคืนไหนๆ
พิพิธภัณฑ์แห่งชาติไต้หวันได้โปรโมทการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมและในระดับนานาชาติมาอย่างยาวนาน ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาก็ได้ให้การสนับสนุนนโยบายมุ่งใต้ใหม่ของรัฐบาลโดยการผลักดันโครงการอบรมทูตผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมการเป็นภัณฑารักษ์ของพิพิธภัณฑ์ รวมทั้งจัดงานกิจกรรมเกี่ยวกับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากมาย และในอนาคตอันใกล้นี้ เป้าหมายการส่งเสริมที่สำคัญจะขยายไปสู่ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่รุ่นที่สอง เพื่อทำให้การแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมหยั่งรากตั้งแต่วัยเด็ก
พิพิธภัณฑ์แห่งชาติไต้หวันเผยว่า ได้เลือกวันพิพิธภัณฑ์โลก เพื่อร่วมมือกับสมาคมพิพิธภัณฑ์ไต้หวันในการจัดกิจกรรมค้างคืนที่พิพิธภัณฑ์ กิจกรรมนี้นอกจากมีไดโนเสาร์จูราสสิกมานอนเป็นเพื่อนเด็กๆ แล้ว ยังมีการนำชมโครงกระดูกไดโนเสาร์และนิทรรศการซากดึกดำบรรพ์และชีววิทยา กิจกรรมชมภาพยนตร์ และกิจกรรมเดินชมประตูกรุงไทเป เป็นต้น ซึ่งเด็กๆ ได้เรียนรู้ทั้งประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมไต้หวัน รวมถึงธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมด้วย
พิพิธภัณฑ์แห่งชาติไต้หวันกล่าวว่า แต่ก่อนมีการจัดกิจกรรมค้างคืนที่พิพิธภัณฑ์อยู่หลายครั้ง และทุกครั้งที่เปิดให้ลงทะเบียน ก็จะเต็มอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ทางพิพิธภัณฑ์ยังได้เชิญเด็กๆ จากชนบทมาร่วมกิจกรรมด้วย ซึ่งเด็กๆ หลายคนมาไทเปเป็นครั้งแรก และได้สัมผัสกับไดโนเสาร์เป็นครั้งแรกด้วย ทางพิพิธภัณฑ์รู้สึกได้ว่าเด็กๆ เต็มไปด้วยความสงสัยความอยากรู้ในธรรมชาติบนโลกใบนี้
ทำให้ทางพิพิธภัณฑ์ต้องการมุ่งมั่นในการจัดกิจกรรมสำหรับกลุ่มผู้ที่อาศัยในชนบท และกลุ่มผู้ด้อยโอกาสมากขึ้นไปอีก
กิจกรรมดังกล่าว พิพิธภัณฑ์แห่งชาติไต้หวันยังได้เชิญทีมเต้นรำเวียดนามอินโดนิเซียและไทย VIT Dance Group และวงอังกะลุงอินโดนิเซีย Gema Anklung มาทำการแสดงที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติไต้หวัน โดยผู้แสดงชาวอินโดนิเซีย เวียดนาม ไทย และฟิลิปปินส์ ต่างนำเสนอวัฒนธรรมเพลงและการเต้นรำของบ้านเกิดตนเองที่ได้ฝึกฝน และออกแบบมานาน สร้างความประทับใจให้ผู้ชมเป็นอย่างมาก
