เพื่อดำเนินการตามนโยบายขยายเวลาการแจ้งเตือนระดับ 3 กรมตรวจคนเข้าเมืองยังคงดำเนินมาตรการขยายระยะเวลาโดยอัตโนมัติเป็น 30 วันสำหรับชาวต่างชาติที่กำลังจะหมดอายุ สำหรับผู้อยู่อาศัยชาวฮ่องกง มาเก๊า และชาวไต้หวันที่ไม่มีทะเบียนบ้าน (รวมถึงคู่สมรสชาวต่างชาติ) ในช่วงที่มีการแจ้งเตือนการระบาดระดับ 3 สามารถขยายวันหมดอายุการพำนักโดยอัตโนมัติเป็นเวลา 30 วัน โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางไปทำเรื่องที่สถานีบริการจนกว่าการแจ้งเตือนจะลดลงเป็นระดับ 2 หากมีการลดระดับการแจ้งเตือนเป็นระดับที่ 2 ชาวต่างชาติที่หมดอายุแล้วจะต้องเดินทางไปทำเรื่องขอต่ออายุภายใน 30 วันนับจากวันประกาศ เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อคลัสเตอร์
มาตรการอำนวยความสะดวกของกรมตรวจคนเข้าเมืองในการร่วมกันประชาสัมพันธ์ ควรทำอย่างไรเมื่อวันที่พำนักของต่างด้าวกำลังจะหมดอายุลง／ภาพจาก สถานีบริการแห่งแรกของเมืองไถจง
อ่านข่าวเพิ่มเติม : เมืองแรกในประเทศ! เถาหยวนสั่งปิดให้บริการ "ร้านเสริมสวย ร้านทำเล็บและร้านต่อขนตา" เริ่มตั้งแต่ 4 มิถุนายน
นอกจากนี้ สำหรับชาวต่างชาติที่อายุการพำนักกำลังจะหมดลงและผู้ที่ได้รับการขยายเวลาเดินทางออกจากไต้หวันแล้ว ก็จะมีการขยายเวลาการพำนักโดยอัตโนมัติเช่นกัน แต่เมื่อมาตรฐานการแจ้งเตือนโรคระบาดลดลงถึงระดับที่ 2 ชาวต่างชาติจะต้องเดินทางไปติดต่อขอยื่นระยะเวลาการพำนักภายใน 10 วันนับจากวันประกาศ แรงงานข้ามชาติที่มีสิทธิ์ได้รับการขยายเวลาสามารถเตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้องไปยื่นที่สถานีบริการเพื่อทำการสมัครใหม่ได้เลย สำหรับข้อมูลการขยายเวลาการพำนักที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับมาตรการนี้สามารถติดตามได้ที่ "ข้อมูลข่าวสาร" และ "การควบคุมสิ่งแวดล้อมเขตป้องกันการแพร่ระบาด" ของเว็บไซต์ของเรา
กรมตรวจคนเข้าเมืองใช้มาตรการที่สะดวกเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด และมีการฆ่าเชื้อเป็นประจำทุกวัน／ภาพจาก สถานีบริการแห่งแรกของเมืองไถจง
อ่านข่าวเพิ่มเติม : ใส่ใจกับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด ในการเดินทางด้วยรถไฟทั้งสองในช่วงวันหยุดยาว
ปัจจุบันสถานีบริการตามสถานที่ต่างๆ เปิดให้บริการตามปกติ หากมีความจำเป็นต้องขอคำปรึกษา ประชาชนยังสามารถเดินทางไปที่สถานีบริการได้เช่นเดิม โจวโย่วเหริน ผู้อำนวยการสถานีบริการแห่งแรกของกรมตรวจคนเข้าเมืองไถจง เตือนว่า สถานีบริการเป็นพื้นที่สาธารณะ และมีการติดต่อกับผู้คนเป็นจำนวนมาก ดังนั้นหากท่านเดินทางไปที่นั้น ควรรักษาระยะห่างทางสังคม สวมหน้ากากอนามัย ให้ความสำคัญกับการฆ่าเชื้อที่มือ ไม่จับปากจมูก ป้องกันตนเองและผู้อื่น
