img
:::

ไขสงสัย กินน้ำเยอะ ทำสมองบวม จริงไหม ?

ภาพ/นำมาจาก Pixabay
ภาพ/นำมาจาก Pixabay

[เว็บไซต์ข่าวรอบโลกสำหรับผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่] ตามข้อมูลจาก “สำนักข่าวเดลินิวส์” ไม่นานมานี้ มีข่าวหญิงวัยกลางคนท่านหนึ่ง ไปกินอาหารที่คาดว่าจะมีผงชูรสเยอะ และเกิดอาการคอแห้ง จึงดื่มน้ำเข้าไปถึงสองลิตรกว่า ๆ อย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดอาการผิดปกติทางสมอง ทำให้หลายคนเกิดความสงสัยว่า การดื่มน้ำเข้าไปเยอะ ๆ ในระยะเวลาอันสั้น ทำให้เกิดอาหารแบบนั้นได้จริงหรือ? ในทางการแพทย์ จะเรียกอาการแบบนี้ว่า water intoxication ตามปกติ ไตสามารถขับน้ำออกได้ 0.8 - 1.0 ลิตรต่อชั่วโมง ดังนั้น การดื่มน้ำมาก ๆ ในเวลาสั้น ๆ ทำให้ไต ไม่สามารถกำจัดน้ำส่วนเกินออกได้ทัน เมื่อมีปริมาณน้ำในเส้นเลือดมากกว่ากว่าปกติ น้ำก็จะไปเจือจางสมดุลเกลือแร่ในร่างกาย อย่างเช่น โซเดียม เมื่อโซเดียมในร่างกายเจือจาง จึงทำให้เกิดภาวะสมองบวมได้

อ่านข่าวเพิ่มเติม:วารสารนานาชาติชี้ เดินวันละ 4,000 ก้าว ลดความเสี่ยงการเสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ !

ตามข้อมูลจาก “สำนักข่าวเดลินิวส์”  ระบุว่า เนื่องจากโซเดียมช่วยรักษาสมดุลของน้ำภายในเซลล์และนอกเซลล์ เมื่อโซเดียมต่ำกว่า 135 มิลลิโมลต่อลิตร น้ำนอกเซลล์ก็จะเข้าไปในเซลล์ และเกิดอาการเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายบวม โดยเฉพาะเซลล์สมอง ทั้งนี้ โอกาสในการดื่มน้ำมากเกินไปโดยไม่ได้ตั้งใจ มีน้อยมาก ๆ แต่ก็สามารถเกิดขึ้นได้ เราพบการดื่มน้ำมากเกินไปในระหว่างการแข่งขันกีฬา หรือการฝึกซ้อมอย่างหนัก ที่พบรายงานเคสมากที่สุดจะเป็นในทหารที่ได้รับการฝึกอย่างหนัก หรือในผู้เข้าแข่งขันจำพวกการวิ่งมาราทอน

ตามข้อมูลจาก “สำนักข่าวเดลินิวส์”  ระบุว่า อาการของภาวะพิษจากน้ำ ที่พบได้บ่อย คือ มีอาการสับสน คลื่นไส้ อาเจียน อาการง่วงนอน กล้ามเนื้ออ่อนแรง หรือเป็นตะคริว มีปัญหาเรื่องการมองเห็น หายใจลำบาก เป็นต้น ในบางกรณี ภาวะน้ำเป็นพิษนี้ อาจทำให้สมองบวมและถึงแก่ชีวิตได้

อ่านข่าวเพิ่มเติม:การบริโภควิตามินซีมากเกินไป อาจส่งผลให้การตรวจพบโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ล่าช้า

ข่าวเด่นประเด็นร้อน

:::
ข่าวล่าสุด 最新消息icon
回到頁首icon
Loading