เนื่องจากในช่วงนี้มีการแพร่ระบาดของโรคปอดบวมหวู่ฮั่น เพื่อให้แน่ใจว่าอุปทานของหน้ากากอนามัยในไต้หวันมีจำนวนเพียงพอต่อความต้องการเพื่อปกป้องสุขภาพของประชาชน เมื่อวันที่ 23 ม.ค. ที่ผ่านมา กระทรวงเศรษฐการของไต้หวันได้ออกมาประกาศว่า ตั้งแต่วันที่ 24 ม.ค.- 23 ก.พ. 2020 (เป็นระยะเวลา 1 เดือน) จะมีการควบคุมการส่งออกวัสดุสิ่งทอที่ใช้ผลิตหน้ากากอนามัย รวมทั้งห้ามส่งหน้ากากอนามัยไปต่างประเทศผ่านทางไปรษณีย์หรือบริการรับส่งด่วนใดๆ ทั้งสิ้น ผู้ที่ฝ่าฝืนกฎระเบียบจะถูกลงโทษโดยศุลกากรตามระเบียบที่เกี่ยวข้อง เช่น กฎหมายการลักลอบขนสินค้าหนีศุลกากร
สำหรับผู้โดยสารที่ถือหน้ากากอนามัยออกนอกประเทศที่มีปริมาณที่สมเหตุสมผลสำหรับการใช้งานของตัวเองก็ไม่จำเป็นต้องแสดงต่อเจ้าหน้าที่ศุลกากร สำหรับในช่วงเทศกาลตรุษจีนนั้น ศุลกากรจำกัดอยู่ที่ 5 กล่องต่อคน เมื่อวันที่ 30 ม.ค. ที่ผ่านมา กรมศุลกากรได้เชิญสำนักการค้าระหว่างประเทศกระทรวงเศรษฐการ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยากระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการ สำนักงานอุตสาหกรรมกระทรวงเศรษฐการ สภากิจการแผ่นดินใหญ่ สำนักงานตำรวจการบินกระทรวงมหาดไทย และหน่วยยามฝั่งประชุมร่วมกัน โดยมีฉันทามติดังต่อไปนี้:
- จำนวนหน้ากากอนามัยที่เหมาะสมสำหรับผู้โดยสารที่จะนำออกนอกประเทศจะถูกจำกัดไว้ที่สูงสุด 5 กล่องต่อคน (50 ชิ้นต่อกล่อง) โดยกรมศุลกากรจะประกาศใช้โดยเร็วที่สุด และในอนาคตจะมีการประชุมเป็นประจำทุกสัปดาห์เพื่อทบทวนปริมาณการใช้งานด้วยตนเองที่เหมาะสม โดยพิจารณาถึงสถานการณ์โรคระบาดและกำลังการผลิตหน้ากากอนามัยในประเทศ
- ผู้ที่เดินทางออกนอกประเทศด้วยหน้ากากอนามัยที่มากเกินไปจะถูกยึดโดยศุลกากรตามมาตรา 39 ของกฎหมายว่าด้วยการลักลอบขนสินค้าหนีศุลกากร และอาจถูกลงโทษด้วยค่าปรับมากสุด 3 เท่าของราคาสินค้าตามมาตรา 36 (วรรค 1)
- หน้ากากอนามัยที่ถูกยึดโดยศุลกากรจะถูกโอนไปยังกรมควบคุมโรคกระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการเพื่อใช้ในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคในประเทศตามคำแนะนำของนายกรัฐมนตรีซู
- ทางกรมและหน่วยงานในสังกัด สำนักงานตำรวจการบินกระทรวงมหาดไทยและหน่วยยามฝั่งได้ร่วมกันก่อตั้งหน่วยงานพิเศษเพื่อร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดในการตรวจสอบจำนวนหน้ากากอนามัยของผู้โดยสารบริเวณผู้โดยสารขาออก หากพบว่ามีการละเมิดกฎก็จะดำเนินการอย่างจริงจัง
กรมศุลกากรเตือนประชาชนอีกครั้งว่า ปริมาณการใช้งานหน้ากากอนามัยสำหรับส่วนตัวในปัจจุบันคือ 5 กล่องต่อคน และส่วนเกินจะถูกยึดตามกฎหมาย และไม่อนุญาตให้ส่งหน้ากากอนามัยไปต่างประเทศผ่านทางไปรษณีย์หรือบริการรับส่งด่วนใดๆ ทั้งสิ้นเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกลงโทษ ซึ่งศุลกากร สำนักงานตำรวจการบิน และหน่วยยามฝั่งจะดำเนินการตรวจสอบและจัดการอย่างเข้มงวด จึงขอให้ประชาชนร่วมกันป้องกันการแพร่ระบาดของโรคและหลีกเลี่ยงช่องว่างในการป้องกันการแพร่ระบาด
