นายพีระพล ถาวรสุภเจริญ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยว่า เนื่องในปีมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ขบ. น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ จัดโครงการสนามจราจรเยาวชนเสริมสร้างจิตสำนึกความปลอดภัยเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก โดยมอบหมายให้สำนักงานขนส่งกรุงเทพฯ พื้นที่ 1-5 สำนักงานขนส่งจังหวัด และสำนักงานขนส่งจังหวัดสาขา บูรณาการร่วมกับเครือข่ายด้านความปลอดภัยในพื้นที่จังหวัด หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมและโรงเรียนในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ จัดกิจกรรมตามโครงการฯ ดังกล่าว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อปลูกฝังวินัยจราจรให้แก่เยาวชนในระดับประถมศึกษาปีที่ 4-6 ในทุกพื้นที่ของประเทศ ทั้งนี้มีเยาวชนจากทั่วประเทศเข้าร่วมโครงการฯ แล้วจำนวนกว่า 50,000 คนนายพีระพล กล่าวต่อว่า สำหรับเยาวชนที่เข้าร่วมโครงการฯ จะได้รับการถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับกฎจราจร เครื่องหมายจราจรต่างๆ ตลอดจนวางรากฐานด้านจิตสำนึกการใช้รถใช้ถนนที่ถูกต้องปลอดภัยด้วยการให้ความรู้เกี่ยวกับอุปกรณ์ส่วนควบต่างๆ ของรถจักรยาน ความรู้เกี่ยวกับหมวกนิรภัยและการสวมหมวกนิรภัยที่ถูกต้อง การตรวจสอบสภาพความพร้อมของรถจักรยานก่อนใช้งาน และเทคนิคการขับขี่อย่างปลอดภัย พร้อมด้วยการฝึกภาคสนามด้วยการขับขี่รถจักรยานสองล้อในสนามจราจรจำลองสถานการณ์ต่างๆ เช่น การขี่ในเส้นทางที่มีทางร่วมทางแยกต่างๆ การขี่บนทางขรุขระ เพื่อให้เยาวชนได้มีประสบการณ์และทักษะการตัดสินใจที่ถูกต้อง เมื่อต้องพบเหตุฉุกเฉินเฉพาะหน้าจากการขับขี่รถจักรยานในชีวิตประจำวัน ซึ่งจะทำให้เยาวชนสามารถขับขี่ได้อย่างปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
นายพีระพล กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ทุกโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการฯ จะมีทีมงานครูต้นแบบ หรือ ครูแม่ไก่ เพื่อนำความรู้ไปเผยแพร่ให้กับนักเรียนในโรงเรียนทุกระดับชั้น เพื่อให้ความรู้ความเข้าใจด้านความปลอดภัยอยู่คู่กับโรงเรียนอย่างยั่งยืน โครงการสนามจราจรเยาวชนเสริมสร้างจิตสำนึกความปลอดภัยเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เป็นโครงการที่มุ่งเน้นการสร้างประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรม ทั้งต่อเยาวชน ครอบครัว และชุมชน เพราะการอบรมมอบความรู้ความเข้าใจถึงการใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัยมีส่วนช่วยหล่อหลอมให้เยาวชนมีความประพฤติที่ดี และมีวินัยมากขึ้นเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีจิตสำนึกความปลอดภัยและวินัยจราจรในอนาคต นำไปสู่การป้องกันและลดปัญหาอุบัติเหตุทางถนนได้อย่างยั่งยืน ซึ่งถือเป็นกำลังที่สำคัญในการขับเคลื่อนสังคมไทยในอนาคต
ข้อมูลข่าวจาก เดลินิวส์