9 เมษายน "พบผู้ป่วยรายใหม่ 4 ราย" จากการอพยพเข้าเมืองโดยมาจากประเทศอิตาลี ฟิลิปปินส์ และสหราชอาณาจักร

ศูนย์บัญชาการการแพร่ระบาดกลางประกาศเมื่อวันที่ 9 เมษายน มีการนำเข้าโควิด -19  ที่ได้รับการยืนยันแล้วจำนวน 4 ราย จากประเทศอิตาลี (เคสที่ 1052) ฟิลิปปินส์ (เคสที่ 1053, 1054) และสหราชอาณาจักร (เคสที่ 1055)
ศูนย์บัญชาการระบุว่าเคสที่ 1052 เป็นหญิงชาวไต้หวันวัย 50 ปี ซึ่งอาศัยอยู่ในอิตาลีเป็นเวลานาน (การเดินทางออกจากไต้หวันก่อนหน้านี้คือในเดือนกุมภาพันธ์ 2020) เธอมีอาการไอและมีเสมหะในต้นเดือนพฤศจิกายน 2020 และเข้ารับการรักษาในอิตาลี นอกจากนี้เธอยังได้รับการวินิจฉัยว่าเป็น COVID-19 และไม่ได้รับการรักษาในโรงพยาบาลเนื่องจากอาการไม่รุนแรง ผลการตรวจติดตามในวันที่ 21 ธันวาคม และ 25 ธันวาคม 2020 ล้วนเป็นผลลบ และได้กลับมาไต้หวันในวันที่ 27 ธันวาคม 2020 เธอเดินทางไปยังโรงแรมที่ป้องกันการแพร่ระบาด หลังจากกักตัวไม่มีอาการใด ๆ ในระหว่างที่อยู่ในไต้หวัน
ศูนย์บัญชาการชี้เพิ่มเติมว่าผู้ป่วย 1052 ไปโรงพยาบาลเพื่อรับการรักษา และตรวจร่างกายเนื่องจากมีไข้อย่างต่อเนื่องในวันที่ 6 เมษายน และอยู่ในโรงพยาบาลเพื่อสังเกตการณ์ วันรุ่งขึ้นผู้ป่วยจะถูกย้ายไปที่หอผู้ป่วยแยกความดันลบเพื่อรับการรักษา และได้รับการวินิจฉัยในวันนี้ (ค่า Ct คือ 34 การทดสอบกรดนิวคลีอิกครั้งที่สองเป็นลบ และแอนติบอดีในซีรัมทั้งหมดเป็นบวก) มีผู้ที่ได้รับการติดต่อ 3 ราย ซึ่งทั้งหมดนี้ไม่มีอาการและอยู่ภายใต้การเฝ้าสังเกตอาการตัวเอง

ศูนย์บัญชาการระบุว่ากรณีที่ 1053 เป็นแรงงานข้ามชาติหญิงในสัญชาติฟิลิปปินส์ อายุ 20 ปี เข้ามาทำงานในไต้หวันเมื่อวันที่ 5 มีนาคม และมีรายงานผลการทดสอบเชิงลบภายใน 3 วันก่อนการบิน หลังจากเดินทางเข้ามาเธอได้ไปยังสถานกักกันส่วนกลางเพื่อกักตัว ก่อนจะหมดเวลากักตัวและรับการตรวจสอบในวันที่ 18 มีนาคม ผลที่ได้คือลบ หลังจากระยะเวลากักตัว บริษัท ได้จัดให้มีการจัดการด้านสุขภาพ ที่อยู่อาศัยอื่น ๆ เนื่องจากความต้องการในการทำงานจึงนำรถพิเศษไปโรงพยาบาลในวันที่ 7 เมษายน เพื่อตรวจสุขภาพด้วยค่าใช้จ่ายของตัวเอง การวินิจฉัยได้รับการยืนยันในวันนี้ (ค่า Ct 32 วินาทีการทดสอบกรดนิวคลีอิกเป็นลบและแอนติบอดีในซีรัมเป็นลบสำหรับ IgM และเป็นบวกสำหรับ IgG) กรณีนี้ไม่มีอาการระหว่างที่เขาอยู่ในไต้หวันและเพื่อนร่วมงานทุกคนที่เข้ารับการทดสอบได้สวมหน้ากากอนามัย และรักษาระยะที่เหมาะสม จึงไม่มีรายชื่อผู้ติดต่อ

ศูนย์บัญชาการชี้ให้เห็นว่ากรณีของ 1054 เป็นแรงงานชายชาวฟิลิปปินส์ วัย 20 ปี ที่เข้ามาทำงานในไต้หวันเมื่อวันที่ 17 มีนาคม และมีรายงานการทดสอบเชิงลบภายใน 3 วันก่อนการบิน หลังจากเข้าประเทศเขาไปที่ด่านกักกันส่วนกลางสำหรับกักตัว ก่อนจะหมดเวลากักตัวและรับการตรวจสอบในวันที่ 30 มีนาคม ซึ่งผลการตรวจสอบเป็นลบ บริษัทจะจัดให้มีการเฝ้าสังเกตอาการตัวเองในหอพัก เนื่องจากความจำเป็นในการทำงานจึงได้เดินทางไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจสุขภาพด้วยค่าใช้จ่ายของตัวเองในวันที่ 7 เมษายน และการวินิจฉัยได้รับการยืนยันในวันนี้ (ค่า Ct 35, ค่า Ct ที่สอง 37, แอนติบอดีในซีรั่ม IgM เป็นลบ, IgG positive) มีผู้ที่ต้องสัมผัสกับกรณีนี้ 6 ราย ในจำนวนนี้ 3 รายอยู่ในรายชื่อแยกบ้าน และ อีก3 รายอยู่ในรายชื่อการจัดการเฝ้าสังเกตอาการตัวเอง

ศูนย์บัญชาการระบุว่าคดี 1055 เป็นชายอายุ 30 ปี จากไต้หวันซึ่งทำงานในสหราชอาณาจักรในเดือนมกราคม 2020 เขามีไข้และไอในปลายเดือนพฤศจิกายน 2020 ได้เข้ารับการรักษาทางการแพทย์ในพื้นที่ และได้รับการวินิจฉัยว่าเป็น COVID-19 เขาเดินทางกลับไต้หวันเมื่อวันที่ 26 มีนาคม โดยรายงานผลการทดสอบเชิงลบภายใน 3 วันก่อนออกเดินทาง หลังจากที่เข้ามาในประเทศเขาได้เดินทางไปที่ด่านกักกันส่วนกลางเพื่อทำการกักตัว หลังเข้าตรวจสอบพิเศษในวันที่ 27 มีนาคม ผลออกมาเป็นลบ และได้ทำการทดสอบก่อนที่จะสิ้นสุดระยะเวลากักตัวในวันที่ 8 เมษายน การวินิจฉัยได้รับการยืนยันแล้วในวันนี้ (ค่า Ct 32 การรวบรวมกรดนิวคลีอิกทุติยภูมิและการทดสอบแอนติบอดีในซีรัม) กรณีนี้ไม่มีอาการในระหว่างช่วงเวลากักตัวและไม่มีการติดต่อกับผู้อื่นจึงไม่มีรายชื่อผู้สุ่มเสี่ยง

จากสถิติของศูนย์บัญชาการจนถึงขณะนี้มีการแจ้งเตือนเกี่ยวกับโควิท-19 ทั้งหมด 194,521 รายในประเทศจีน (รวม 192,516 รายที่ถูกยกเว้น) ซึ่งได้รับการยืนยัน 1,054 ราย โดยจากการอพยพไปต่างประเทศ 938 ราย ผู้ป่วยในท้องถิ่น77ราย  กองเรือ Dunmu 36 ราย กรณีติดเชื้อในเครื่องบิน 2 ราย และไม่ทราบกรณีอีก 1 ราย(Case 530) ถูกลบออกเป็นหมายเลขว่าง จากกรณีที่ได้รับการยืนยันมีผู้เสียชีวิต 10 คน ได้รับการปล่อยตัวจากการกักตัว1,018 คนและกำลังกักตัว 26 คน