นายอนันต์ แก้วร่วมวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ไทยคมสนใจการทำธุรกิจดาวเทียมทั้งในรูปแบบ พีพีพี กับ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) และ การใช้ดาวเทียมต่างชาติ ซึ่ง สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) คาดว่าจะเปิดเสรีดาวเทียม ทั้งดวงใหม่ และ เปิดให้ดาวเทียมต่างชาติมาขอใช้สิทธิประกอบธุรกิจในประเทศไทยได้ภายในต้นปีหน้า ซึ่งขณะนี้ไทยคม อยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรต่างชาติ 2-3 ราย คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ไม่เกินกลางปีหน้า
แม้ว่าปัจจุบันธุรกิจที่มาจากการให้เช่าวงโคจรดาวเทียมยังอยู่ที่ 80% แต่ในอนาคตไทยคมจะมีสัดส่วนระหว่างธุรกิจดาวเทียม และธุรกิจใหม่ ที่เน้นการให้บริการเป็นโซลูชั่นอยู่ที่ 50:50 %
โดยเร็วๆนี้จะมีการเปิดตัวบริการในรูปแบบบริษัทใหม่ภายใต้การบริหารงานของไทยคมเพื่อให้บริการเช่าโดรนพ่นยาเพื่อการเกษตร โดยโดรนดังกล่าวจะไม่เพียงทำแค่หน้าที่พ่นยาเท่านั้น แต่จะมีการเก็บข้อมูลทางการเกษตรเพื่อนำไปต่อยอดในอุตสาหกรรมการเกษตรได้ ทำให้ช่วยลดการพ่นยา ตลอดจนแก้ปัญหาการหาคนมาพ่นยาไม่ได้ และเพิ่มประสิทธิภาพในการพ่นยา 30% และเตรียมเสนอรัฐบาลถึงแนวทางในการใช้ดาวเทียมสำรวจทรัพยากร สำหรับเก็บข้อมูลด้านการเกษตรของประเทศเพื่อนบ้านเพื่อเป็นประโยชน์ในการนำมาวิเคราะห์และวางแผนการส่งออกพืชผลการเกษตรของประเทศไทยด้วย รวมถึงการให้บริการเครื่องบินไร้คนขับ และ มอเตอร์ไซค์พลังงานไฟฟ้า ด้วย
บริษัท ไทยคมมองว่า มิติใหม่ของดาวเทียมจะไม่ใช่การให้เช่าวงโคจรสื่อสารเพื่อให้บริการเคเบิ้ลทีวี หรือ ใช้อินเทอร์เน็ตอีกต่อไป อนาคตบิ๊ก ดาต้า สำคัญต่อการนำมาวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการแข่งขัน ไทยคมจึงเริ่มทรานเฟอร์มองค์กรมา 2-3 ปี เพื่อเตรียมความพร้อมในการให้บริการแบบโซลูชั่นมากขึ้น
ด้านนายปฐมภพ สุวรรณศิริ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการค้า กล่าวว่า การที่กสทช.เปิดเสรีดาวเทียม ด้วยการให้ต่างชาติขอแลนด์ดิ้งไลท์ในประเทศไทยได้นั้น นับเป็นโอกาสอันดีของไทยคม หากเงื่อนไข หรือ การทำ พีพีพี ของรัฐบาล ไม่มีความชัดเจน ไทยคมก็สามารถย้ายลูกค้าไปยังดาวเทียมต่างชาติดวงใหม่ได้ง่ายกว่าการสร้างเองเหมือนแต่ก่อน
ข้อมูลข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์