ตามรายงานข่าวของ THE STANDARD การทำไร่โกโก้โดยใช้แรงงานเด็กนั้นเป็นปัญหาที่ควรต้องตระหนักรู้ ทำให้ในตอนนี้ผู้ผลิตช็อกโกแลตจากทั่วโลกอยู่ภายใต้แรงกดดันทั้งจากนักลงทุน ผู้บริโภค และรัฐบาล ว่าเมล็ดโกโก้ของพวกเขาต้องมาจากแหล่งที่ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ได้มาจากแหล่งที่มีการใช้แรงงานเด็ก
นอกจากการจัดหาเมล็ดโกโก้อย่างยั่งยืนแล้ว การช่วยเหลือเด็กให้พวกเขาได้ไปโรงเรียน และเติบโตในสภาพแวดล้อมที่ดี แทนที่จะต้องมาใช้แรงงานในไร่โกโก้ การสู้เพื่อความเท่าเทียมของผู้หญิง และการอำนวยความสะดวกให้เกษตรกรด้วยทรัพยากรทางการเงินก็เป็นเรื่องที่สำคัญ จากการร่วมมือกันระหว่างองค์กรเอกชน รัฐบาล องค์กรพัฒนาชุมชน และหน่วยงานอื่นในอุตสาหกรรมโกโก้ จะต้องทำให้ชีวิตครอบครัวของเกษตรกรไร่โกโก้ดีขึ้นอย่างแน่นอน
อ่านข่าวเพิ่มเติม: ผู้ติดเชื้อในประเทศส่วนใหญ่ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน CECC จำแนก “4 อาการ” ที่พบบ่อยในผู้ติดเชื้อโอมิครอน
เพื่อลดการใช้แรงงานเด็กในการผลิตโกโก้ในแอฟริกาตะวันตก เนสท์เล่จึงผุดโครงการ Income Accelerator ที่จะมอบสิ่งจูงใจเป็นการสนับสนุนทรัพยากรทางการเงิน โดยจะสนับสนุนเงินสำหรับการศึกษาในโรงเรียนให้เด็กๆ ในครัวเรือนที่ทำอาชีพเป็นเกษตรกรไร่โกโก้ และยังมอบเงินให้กับผู้หญิงที่ต้องเลี้ยงดูเด็กๆ เหล่านี้สำหรับใช้จ่ายในบ้านอีกด้วย
นอกจากสนับสนุนด้านทรัพยากรการเงินให้ครอบครัวเกษตรกรมีความเป็นอยู่ที่ดีแล้ว เนสท์เล่ยังช่วยจัดหาแหล่งรายได้เพิ่มเติมด้วยการสร้างทักษะการปลูกพืชอื่น และการทำปศุสัตว์ให้เกษตรกรอีกด้วย โดยครอบครัวของเกษตรกรจะมีรายได้เพิ่มเติมสูงถึง CHF500 ต่อปี ในช่วงสองปีแรกของโครงการ และ CHF250 หลังจากนั้นหากปฏิบัติตามแนวทางของโครงการ
อ่านข่าวเพิ่มเติม: มท.ไต้หวันรณรงค์ไม่นำหรือส่งผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของเนื้อสัตว์จากพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดมายังไต้หวัน
เนสท์เล่กล่าวว่า แผนดังกล่าวสร้างขึ้นจากโครงการนำร่องในปี 2020 โดยมีเกษตรกร 1,000 รายในประเทศโกตดิวัวร์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ ไอวอรี่ โคสต์ และในปีนี้ เนสท์เล่จะขยายโครงการให้ครอบคลุม 10,000 ครัวเรือน ก่อนที่จะขยายไปยังประเทศกานาด้วยในอีก 2 ปีข้างหน้า และพวกเขายังมุ่งหวังว่าภายใน 8 ปี โครงการนี้จะเข้าถึงทุกครัวเรือนที่ทำอาชีพเกษตรกรไร่โกโก้ และเนสท์เล่จะออกผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่มีโกโก้ที่มาจากโปรแกรมนี้ และยังใช้โกโก้ที่มาจากโปรแกรมนี้ในขนมช็อกโกแลตคิทแคท โดยเริ่มต้นการผลิตในปีหน้า ขอบคุณข้อมูลจาก: THE STANDARD